posttoday

KTISระดมเฉียดหมื่นล้านใหญ่สุดปีนี้

19 เมษายน 2557

KTIS ระดมทุนก้อนใหญ่สุดของปี 9,578 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป 3.8 หมื่นล้านบาท ขายหุ้นละ 10 บาท

KTIS ระดมทุนก้อนใหญ่สุดของปี 9,578 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป 3.8 หมื่นล้านบาท ขายหุ้นละ 10 บาท

นายคมกฤต มีคำสัตย์ ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีซีมิโก้ ในฐานะแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นให้กับประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) ของบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS) เปิดเผยว่า บริษัทเสนอขายหุ้นครั้งนี้จำนวน 957.8 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท คิดเป็นอัตราราคาเทียบกับกำไรสุทธิต่อหุ้น (พี-อี) ที่ 12-13 เท่า กำหนดเปิดให้จองซื้อ 21-23 เม.ย.นี้ และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันแรกวันที่ 28 เม.ย.นี้

ในเบื้องต้นจะจัดสรรหุ้นให้กับนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศจำนวน 20% รายย่อย 40% และผู้มีอุปการคุณ 40% ในส่วนนี้ได้รวมการจัดสรรให้กับชาวไร่อ้อยกว่า 1,000 รายด้วย

KTIS จะได้รับเงินจากการขายหุ้นครั้งนี้ 9,578 ล้านบาท และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ที่ระดับ 3.8 หมื่นล้านบาท นับเป็นการระดมทุนเฉพาะหุ้นสามัญ ไม่นับกองทุนอสังหาริมทรัพย์และอินฟราฟันด์ ครั้งใหญ่สุดในช่วงกว่า 1 ปีนี้

นายคมกฤต เชื่อว่า หุ้น KTIS จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเนื่องจากโรงงานน้ำตาลสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจำนวนมาก จากการดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมต่อเนื่องอย่างครบวงจร ทั้งผลิตและจำหน่ายเอทานอล เยื่อกระดาษ ไฟฟ้าชีวมวล และปุ๋ยชีวภาพ

นอกจากนั้น ยังมีบริษัทชั้นนำระดับโลก คือ ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น และนิสชิน ชูการ์ เข้าถือหุ้น เป็นการสะท้อนความมั่นใจให้กับผู้ลงทุน

ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดทุน บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ปัจจุบันหุ้นไอพีโอได้กลับมาเป็นที่สนใจของนักลงทุน เทียบจากช่วงก่อนหน้านี้นักลงทุนกังวลเรื่องการเมือง และดัชนีหุ้นสามารถยืนเหนือระดับ 1,400 จุด เป็นผลบวกเชิงจิตวิทยาการลงทุนให้กับหุ้นไทย

นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTIS กล่าวว่า รายได้ของบริษัทในปีนี้|น่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.2-2.3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มราคาน้ำตาลดีกว่าปีที่ผ่านมา และปริมาณการผลิตน้ำตาลของบริษัทก็มากกว่าปีที่แล้ว 1 ล้านกระสอบ

ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 80% มาจากธุรกิจน้ำตาล ที่เหลือ 20% มาจากธุรกิจอุตสาหกรรมต่อเนื่อง แต่คาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า สัดส่วนรายได้จากน้ำตาลน่าจะลดลงเหลือ 60%

ภาวะตลาดหุ้นไทยที่สดใสต่อเนื่องล่าสุด ดัชนีปิดที่ระดับ 1,409.18 จุด ส่งผลให้ราคาหุ้นน้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามาซื้อขายใน SET และตลาดหลักทรัพย์ (เอ็มเอไอ) ในปีนี้จำนวน 5 บริษัทปรับตัวขึ้นสูงกว่าราคาไอพีโอด้วย ยกเว้นบริษัท เอไอ เอนเนอร์จี (AIE) เพียงแห่งเดียวที่ราคาปิดที่ 3.98 บาท ต่ำกว่าราคาจองที่ 4.75 บาท