posttoday

MFCเปิดกลยุทธ์"ทาร์เก็ตฟันด์"พาเหรดเข้าเป้า

28 เมษายน 2556

เผยกลยุทธ์การบริหารทาร์เก็ตฟันด์ให้ได้กำไรตามเป้าหมาย ไม่ว่าตลาดหุ้นจะอยู่ในภาวะแบบไหน

เผยกลยุทธ์การบริหารทาร์เก็ตฟันด์ให้ได้กำไรตามเป้าหมาย ไม่ว่าตลาดหุ้นจะอยู่ในภาวะแบบไหน

นับตั้งแต่ปี 2555 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี เป็นอีก บลจ.หนึ่งที่สร้างผลงานโดดเด่นในการบริหารทาร์เก็ตฟันด์ หรือทริกเกอร์ฟันด์ ให้เข้าเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่องในเวลาอันรวดเร็ว

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาวะตลาดหุ้นเอื้ออำนวย

แต่อีกปัจจัยหนึ่งเป็นเพราะ “กลยุทธ์การลงทุน” ของ บลจ.เอ็มเอฟซี ซึ่ง พัณณรัชต์ บรรพโต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายบริหารกองทุน บลจ.เอ็มเอฟซี ได้เปิดเผยกลยุทธ์การบริหารทาร์เก็ตฟันด์ให้ได้กำไรตามเป้าหมาย ไม่ว่าตลาดหุ้นจะอยู่ในภาวะแบบไหน

“การบริหารทาร์เก็ตฟันด์จะเป็นการทำงานแบบกองทุนเชิงรุก ซึ่งต้องรุกทุกด้านตั้งแต่การเพิ่ม-ลดน้ำหนักหุ้นและเงินสด การใช้เครื่องมือทางการเงินมาช่วยบริหารและการเลือกหุ้น นอกจากนี้ จำนวนหุ้นในทาร์เก็ตฟันด์ก็จะเน้นๆ ประมาณ 20 ตัว ในขณะที่กองทุนหุ้นทั่วไปจะลงทุนประมาณ 30 ตัว” พัณณรัชต์ กล่าว

ตลาดขาขึ้น

กลยุทธ์การลงทุนในช่วงตลาดขาขึ้น

ประการแรก เลือกหุ้นที่มีเบตาสูง เพราะเมื่อตลาดปรับเพิ่มขึ้น หุ้นที่มีเบตาสูงจะปรับเพิ่มขึ้นได้มากกว่าตลาด

ประการที่สอง ให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นมากขึ้น

ประการที่สาม หาหุ้นราคาถูกและสะสมกำไรไปเรื่อยๆ

ประการที่สี่ หาจังหวะขายทำกำไรก่อนที่ราคาจะไปถึงเป้าหมาย

“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การคัดเลือกหุ้นเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยที่หุ้นขนาดใหญ่ไม่ปรับเพิ่มขึ้นมากนัก เพราะฉะนั้นต้องเลือกหุ้นที่มีขนาดเล็กลงมา ทำให้ต้องเข้าไปเข้าพบบริษัทจดทะเบียนมากขึ้น”

พัณณรัชต์ ยอมรับว่า หุ้นขนาดกลางและเล็กมากขึ้นมีความผันผวนสูงกว่าหุ้นขนาดใหญ่ เนื่องจากมีนักลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุนจำนวนมาก ทำให้ราคาค่อนข้างหวือหวา จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้นด้วย

“สำหรับหุ้นขนาดกลางและเล็กที่เราเห็นว่ามีศักยภาพ และเข้าไปซื้อล็อตใหญ่ ซึ่งนักลงทุนรายย่อยจะเห็นว่า มีปริมาณการซื้อเข้ามามากก็อาจจะสนใจหุ้นตัวนั้นด้วย ทำให้ราคาปรับเพิ่มขึ้นได้เร็วกว่าเป้าหมายที่เราคาดไว้ เราก็ทยอยขายออกไปได้เร็วขึ้น”

ตลาดขาลง

ประการแรก เพิ่มการถือครองเงินสดมากขึ้น

ประการที่สอง ตัดขายหุ้นออกไปบางส่วน

ประการที่สาม ใช้อนุพันธ์เข้ามาช่วย โดยชอร์ตเซล SET Index Futures เพื่อป้องกันความเสี่ยงในตลาดขาลงไม่ให้กองทุนขาดทุน

“ถ้ากองทุนไม่สามารถทำผลตอบแทนได้ถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ก็จะบริหารกองทุนต่อไป และจะปิดกองทุนและขายคืนหน่วยลงทุนต่อ เมื่อได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายเท่านั้น” พัณณรัชต์ กล่าว

ตลาดผันผวน

ประการแรก เพิ่มการถือครองเงินสด

ประการที่สอง คัดเลือกบริษัทที่ดี ซึ่งทำให้มั่นว่า แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับลดลง แต่บริษัทยังสามารถเติบโตได้

ประการที่สาม หาจังหวะเข้าซื้อหุ้นที่คัดเลือกไว้ เมื่อราคาปรับลดลง

ประการที่สี่ ขายทำกำไร ก่อนที่ราคาจะขึ้นไปถึงราคาเป้าหมาย

“สำหรับทาร์เก็ตฟันด์ ผู้จัดการกองทุนจะขายทำกำไรก่อนที่ราคาจะไปถึงเป้าหมาย เพื่อเก็บสะสมกำไรเอาไว้เรื่อยๆ แล้วก็เปลี่ยนไปซื้อหุ้นตัวอื่นที่ราคายังปรับเพิ่มขึ้นไม่มาก”

เพราะฉะนั้นนักลงทุนจึงวางใจได้ว่า แม้ตลาดหุ้นจะผันผวน หรือเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ ไม่ใช่ขาขึ้นเต็มที่เหมือนอย่างที่ผ่านมา ผู้จัดการกองทุนก็จะสามารถหาโอกาสทำให้ทาร์เก็ตฟันด์ทำกำไรได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

“แม้ว่าตลาดหุ้นจะผันผวน แต่เรายังสามารถออกทาร์เก็ตฟันด์ได้อยู่ เพียงแต่ตลาดจะเปลี่ยนไป โดยจะหมุนไปตามกระแสเงินทุนจากต่างประเทศ เช่น ตอนนี้ที่มองอยู่คือ ตลาด TIP ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์”

ระบบงานที่ทันสมัย

นอกจาก “ฝีมือของผู้จัดการกองทุน” แล้วพัณณรัชต์ บอกว่า “ระบบงานด้านการลงทุน” ก็มีส่วนช่วยบริหารพอร์ตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อปี 2555 บลจ.เอ็มเอฟซี ทุ่มทุนติดตั้งระบบ Charles River Investment Management System ซึ่งเป็นระบบงานลงทุนที่ทันสมัยและได้รับความนิยมในธุรกิจการจัดการกองทุนทั่วโลก (รวมทั้งประเทศไทยด้วย เพราะมี บลจ.และโบรกเกอร์หลายแห่งเริ่มนำมาใช้)

“ระบบงานใหม่จะทำให้การบริหารกองทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะลดขั้นตอนการทำงานของผู้จัดการกองทุน ลดความยุ่งยากในการทำงาน จึงทำให้การส่งคำสั่งซื้อขายทำได้รวดเร็วขึ้น และสามารถดูได้หลายมิติมากขึ้น รวมทั้งการตั้งค่าการบริหารกองทุนที่มีเงื่อนไขเดียวกันให้อยู่ในกลุ่มเดียวกันได้”

นอกจากนี้ ระบบดังกล่าวยังช่วยลดความผิดพลาดในการทำงานและช่วยเตือนให้ผู้จัดการกองทุนไม่ทำผิดพลาด เช่น การควบคุมอัตราส่วนการลงทุน เมื่อผู้จัดการกองทุนซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่งจนใกล้ถึงเพดานที่กำหนดไว้ ระบบจะเตือนให้ผู้จัดการกองทุนรู้ทันที

ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของระบบนี้คือ สามารถรองรับการลงทุนในตราสารรูปแบบใหม่ๆ ได้มากขึ้น และยังสามารถการบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน รวมทั้งบริหารเงินสดได้ในระบบเดียวกัน

“เราทุ่มเทกับการติดตั้งระบบนี้อย่างมาก ตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นมาดูแล ทำให้สามารถติดตั้งได้เสร็จตามเวลาที่กำหนดไว้ และถือว่าเป็นระบบที่สอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตของ บลจ.เอ็มเอฟซี ได้เป็นอย่างดี” พัณณรัชต์ กล่าว