posttoday

ฝรั่งเมินยึดราชประสงค์ซื้ออีก1.2พันล้านหุ้นพุ่ง7จุด

06 เมษายน 2553

ต่างชาติไม่สนม็อบแดงยึดราชประสงค์ ลุยซื้ออีก 1,200 ล้าน พลิกดัชนีปิดบวก 7 จุด CENTEL เสียรายได้ 20 ล้าน โยกลูกค้าพักที่ลาดพร้าว

ต่างชาติไม่สนม็อบแดงยึดราชประสงค์ ลุยซื้ออีก 1,200 ล้าน พลิกดัชนีปิดบวก 7 จุด CENTEL เสียรายได้ 20 ล้าน โยกลูกค้าพักที่ลาดพร้าว

ตลาดหุ้นไทยเปิดซื้อขายวันแรกหลังม็อบเสื้อแดงยึดสี่แยกราชประสงค์ ปรากฏว่าดัชนีผันผวนสูง แกว่งขึ้นลงรวม 17.82 จุด โดยช่วงเช้านักลงทุนตกใจทิ้งหุ้นทุบดัชนีรูดลงแรงกว่า 10 จุด และช่วงบ่ายมีแรงซื้อกลับตีตลาดฟื้นรวดเร็ว และปิดที่ระดับสูงสุด 808.15 จุด เพิ่มขึ้น 7 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 21,885 ล้านบาท และต่างชาติซื้อสุทธิ 1,207 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หุ้นท่องเที่ยวและสันทนาการได้รับผลชัดเจนจากม็อบ เพราะในย่านราชประสงค์มีโรงแรมชื่อดังตั้งอยู่หลายแห่ง เช่น โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นกลุ่มนี้ปิดที่ 210.05 จุด ลดลง 2.16 จุด หรือ 1.02%

นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงิน บัญชีและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา (CENTEL) เปิดเผยว่า ยังคงเป้าประมาณการรายได้รวมในปี 2553 เติบโต 11-12% จากปีก่อน

ทั้งนี้ ในส่วนของธุรกิจโรงแรม คาดจะเติบโต 15% และธุรกิจอาหาร น่าจะเติบโต 5-10% แม้ว่าม็อบเสื้อแดงจะปิดใจกลางธุรกิจก็ตาม เพราะเชื่อว่าเมื่อทุกอย่างผ่านไปธุรกิจโรงแรมก็จะฟื้นกลับมาเร็วอย่างเช่นเดือน เม.ย. 2552 และสรุปสิ้นปีธุรกิจโรงแรมโตได้กว่า 7%

“ถึงตอนนี้เราสูญเสียรายได้แล้ว 20 ล้านบาท และได้โยกย้ายลูกค้าโรงแรมเซ็นทาราฯ ไปพักที่โรงแรมเซ็นทรัล ลาดพร้าว แทน แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อจะส่งผลให้บริษัทเสียหายราว 40-50 ล้านบาท แต่ถ้าจบได้เร็วคาดช่วงครึ่งปีหลังทุกอย่างกลับมาดี” นายรณชิต กล่าว

น.ส.ประภารัตน์ ตังควัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการเงิน บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) กล่าวว่า ยังไม่ได้ประเมินตัวเลขความเสียหายของโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) นครหลวงไทย ออกบทวิเคราะห์ว่า การชุมนุมของม็อบเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมโดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกและโรงแรม เพราะในพื้นที่นั้นมีโรงแรมหลายแห่ง ส่วนธุรกิจค้าปลีกมีบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) ซึ่งบิ๊กซี 1 สาขาจะมียอดขายวันละประมาณ 2.8-3 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 1.1 แสนบาท ซึ่งหากยืดเยื้อก็จะส่งผลกระทบต่อกำไรประมาณ 0.3-0.5%

ด้านบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) มีสาขาที่เพลินจิต มียอดขาย 1.6-2 ล้านบาท หากการชุมนุมยาวจะกระทบกำไรประมาณ 0.5-0.6% รวมถึงกระทบธุรกิจสำนักงานให้เช่าอย่างบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) แต่ CPN มีสัญญาเช่ายาวถึง 70-75% จึงได้รับผลกระทบไม่มากนัก แต่ผู้เช่าจะได้รับผลกระทบมากกว่า ดังนั้นจึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้นเหล่านี้อยู่

สำหรับผลต่อดัชนีตลาดหุ้นนั้นไม่น่าจะมากนักเพราะขณะนี้พื้นฐานเศรษฐกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งมาก และบริษัทจดทะเบียนยังมีอัตราการเติบโตของกำไรประมาณ 16% จากปีก่อน จึงเชื่อมั่นว่าเงินทุนต่างชาติยังคงที่จะไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง

บล.เอเซียพลัส ก็มองตรงกับนครหลวงไทย เชื่อว่าเงินทุนต่างชาติจะยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นต่อเนื่อง และในช่วง 1 เดือนนับจากนี้จะมีเงินไหลเข้าได้อีกประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เพราะเศรษฐกิจไทยดีมาก