posttoday

‘คาลเท็กซ์’รุกหนัก

19 กุมภาพันธ์ 2556

ทุ่ม1,800ล้าน3ปีเพิ่มปั๊มทั่วไทย500แห่งพร้อมขายแก๊สโซฮอล์อี20-เบนซิน95

ทุ่ม1,800ล้าน3ปีเพิ่มปั๊มทั่วไทย500แห่งพร้อมขายแก๊สโซฮอล์อี20-เบนซิน95

คาลเท็กซ์ ทุ่ม 1,800 ล้านบาท ขยายปั๊ม 500 แห่งใน 3 ปี หวังเพิ่มแชร์เป็น 10-12%

นายเอเดรียน เบนเด็ก ประธานกรรมการและผู้จัดการใหญ่ บริษัทเชฟรอน (ไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “คาลเท็กซ์” เปิดเผยว่า บริษัทจะลงทุนประมาณ 1,800ล้านบาท สำหรับลงทุนรวมในระยะเวลา 3 ปี (2555-2558) เพื่อขยายสถานีบริการน้ำมัน (ปั๊ม) เพิ่มขึ้นเป็น 500 แห่ง ในปี 2558 จากปัจจุบันมีจำนวน 400 แห่งทั่วประเทศ และตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดน้ำมันขายปลีกเพิ่มขึ้นเป็น 1012% ในปี 2558 จากปัจจุบัน 8%

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล เพื่อเปิดมินิซูเปอร์มาร์เก็ตภายใต้ชื่อ “ท็อปส์เดลี่” และร้านสะดวกซื้อ“แฟมิลี่ มาร์ท” ในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์รูปแบบใหม่ทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ระหว่างธุรกิจน้ำมัน (ออยล์) กับ ธุรกิจค้าปลีก (นอนออยล์) เป็นสัดส่วน 60% ต่อ 40% ในปี 2558 จากปัจจุบันอยู่ที่ 70% ต่อ 30%

“บริษัทใช้เงินลงทุนปีละ 600 ล้านบาทขยายปั๊มน้ำมันเพื่อให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น พร้อมใช้งบประมาณทางการตลาดมูลค่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 150 ล้านบาท) ต่อปีและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต” นายเอเดรียน กล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับปี 2556 บริษัทวางเป้าหมายในการขยายปั๊มอีก 30 แห่ง และตั้งเป้าหมายยอดจำหน่ายเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 10% โดยปีที่ผ่านมามียอดจำหน่ายน้ำมันขายปลีกรวมเฉลี่ย 300 ล้านลิตร/เดือน

นอกจากนี้ บริษัทกำลังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “คาลเท็กซ์แก๊สโซฮอล์ อี20” แทนเบนซิน 91 โดยเริ่มจำหน่ายในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลประมาณ 55 แห่ง โดยใช้เงินลงทุนปรับเปลี่ยนอุปกรณ์มูลค่า 5,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.5 แสนบาท) ต่อแห่ง และจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 แห่งภายในสิ้นปีนี้

สำหรับแผนการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 95 นั้น บริษัทจะเพิ่มจำนวนปั๊มจำหน่ายจาก 260 แห่งเป็น 300 แห่งในปีนี้ แต่คาดว่าส่วนแบ่งการตลาดจะลงมาเป็นอันดับ 2 คือ2025% จากเดิมที่มีอยู่ 75% เนื่องจากจะมีผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่เข้ามาแข่งขันทำตลาด

“ที่ผ่านมาบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดน้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ 75% ของตลาด และคาดว่าจะลดลงหลังเดือน มี.ค. ที่สต๊อคเบนซิน 91 หมดลง เนื่องจากมีผู้จำหน่ายรายใหญ่จำหน่ายน้ำมันเบนซิน 95 เช่นกัน ส่งผลให้บริษัทจะตกลงมาเป็นอันดับ 2 ที่ส่วนแบ่งทางการตลาด 20 25%” นายเอเดรียน กล่าว

นอกจากนี้ สำหรับค่าการตลาดน้ำมันเบนซิน 95 ขณะนี้อยู่ในระดับที่ลดลงใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์อื่นซึ่งต่างจากที่ผ่านมาไม่มีผู้สนใจจำหน่ายน้ำมันชนิดดังกล่าว ส่วนน้ำมันดีเซลมองว่าอยากให้รัฐบาลสะท้อนต้นทุนราคาที่แท้จริงหลังจากที่ผ่านมาตรึงราคาไว้ที่ 29.99 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลานานซึ่งเป็นห่วงการรับภาระส่วนต่างราคาที่แท้จริง

นายเอเดรียน กล่าวว่า กำลังอยู่ระหว่างการนำเสนอขอเพิ่มค่าการตลาดน้ำมันเพิ่มอีก 10 สตางค์/ลิตร จากปีที่ผ่านมาค่าการตลาดน้ำมันเฉลี่ยรวมของบริษัทอยู่ในระดับ 1.451.50 บาทต่อลิตร แต่ยังถือว่าไม่คุ้มค่า