คาดกำไรบจ.โต10%

สภาตลาดทุนไทยเตรียมนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนอังกฤษ คาดกำไร บจ.ปีนี้เพิ่ม 10% บ้านปู-ซีพีเอฟ กำไรดิ่งสวนทาง CENTEL

รายงานข่าวจากสภาธุรกิจตลาดทุนไทยได้แจ้งว่า นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย จะนำเสนอข้อมูลผลประกอบการของตลาดหลักทรัพย์ไทยเปรียบเทียบกับตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคและทั่วโลก ต่อนักลงทุนอังกฤษจำนวน 80 ราย ในโอกาสร่วมเดินทางไปโรดโชว์ร่วมกับกระทรวงการคลัง วันที่ 13 พ.ย.นี้ ทั้งนี้นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้น 26.8% สูงกว่าดัชนี MSCI ยกเว้นญี่ปุ่น และดัชนี MSCI ตลาดเกิดใหม่ที่ให้ผลตอบแทนเพียง 14.47% และ 9.85% ตามลำดับ

ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวเกิดจากการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งจากการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ แม้ว่าตัวเลขหนี้สาธารณะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังเป็นสัดส่วนเพียง 44.9% ต่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ

สภาตลาดทุนไทย คาดว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนปีนี้ยังเติบโตสูงเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน และปีหน้า 20% จากปี 2555 ในขณะที่สัดส่วนราคาต่อกำไร (พี/อี) ของตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 11.5 เท่า ในราคาต่อมูลค่าบัญชี 2.1 เท่า อัตราผลตอบแทนปันผล 4% สูงกว่า พี/อี ดัชนีตลาดหุ้นเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่น 10.8 เท่า ราคาต่อมูลค่าบัญชี 1.4 เท่า และอัตราผลตอบแทนปันผล 2.9%

นอกจากนั้น ประเทศไทยยังมีมาตรฐานด้านธรรมาภิบาลสูงเป็นอันดับ 3 ในเอเชีย รองจากสิงคโปร์และฮ่องกง นอกจากนั้นยังโชว์จุดขายบริษัทขนาดใหญ่ 20 อันดับแรกของไทย พร้อมประมาณการกำไรปีนี้และปีหน้า

ล่าสุด บริษัทจดทะเบียนไทยขนาดใหญ่ 2 บริษัทในรายชื่อนั้น ได้ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ออกมา โดยบริษัท บ้านปู (BANPU) และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) มีกำไรลดลง

บริษัท บ้านปู มีกำไรสุทธิ 2,262 ล้านบาท ลดลง 46% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า และ 17% จากไตรมาส 2/2555 เพราะรายได้จากการขายลดลง 5% จากงวดเดียวกันของปี 2554 ตามการลดลงของราคาขายถ่านหินเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้อัตราส่วนการทำกำไรขั้นต้นต่อยอดขายรวมสำหรับไตรมาสนี้ 38%

นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BANPU ชี้แจงว่า เกิดจากราคาขายที่ลดลงตามราคาถ่านหินในตลาดโลก แต่ยังคงรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นต่อยอดขายรวมของธุรกิจถ่านหินได้ในระดับที่ดีจากแผนการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ได้เริ่มมาตั้งแต่ต้นไตรมาส 3

ด้านสภาพตลาดทุนไทย คาดว่ากำไรบริษัท บ้านปู ปีนี้จะเพิ่มขึ้น 30.2% และปีหน้าลดลง 10.2% ในอัตราผลตอบแทนปันผล 5.3% และ 4.7% ตามลำดับ

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร กล่าวว่า บริษัทมีกำไรไตรมาส 3 ปี 2555 จำนวน 2,404 ล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมา 53% เป็นผลมาจากอัตราการทำกำไรขั้นต้นจากธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสัตว์ลดลงจากปีก่อน จากระดับราคาเนื้อสัตว์ต่ำกว่าระดับราคาในปี 2554 ประกอบกับต้นทุนในการผลิต โดยเฉพาะราคาวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งปี 2555 นี้ นับได้ว่าเป็นปีที่มีปัจจัยภายนอกหลายประการที่มีผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท เช่น ภาวะวิกฤตภัยแล้งในสหรัฐที่มีผลต่อราคาวัตถุดิบ ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เป็นไปตามที่ได้คาดไว้ ภาวะผลผลิตล้นตลาด

นายอดิเรก คาดว่าปีหน้าบริษัทน่าจะคงระดับการเติบโตของธุรกิจไว้ได้ที่ประมาณ 15-20% จากปีนี้

ขณะที่สภาตลาดทุนไทย คาดว่าปีนี้ CPF จะมีกำไรลดลง 23.6% ปีหน้ากำไรเพิ่มขึ้น 43.7% ในอัตราผลตอบแทนปันผล 2.1% และ 3% ตามลำดับ

ด้านบริษัท โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา (CENTEL) แจ้งว่า มีกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปีนี้ 104 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.08 บาท เพิ่มขึ้น 225% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้งวด 9 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 833 ล้านบาท หรือ 0.62 บาท เพิ่มขึ้น 75% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการ CENTEL กล่าวว่า กำไรที่เพิ่มขึ้นเกิดจากรายได้รวม 3,485.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจโรงแรม 1,439.3 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจอาหาร 2,046.3 ล้านบาท สัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมและรายได้จากธุรกิจอาหารเท่ากับ 41:59