posttoday

คาดหุ้นไทยชะลอตัวสั้นที่1,305-1,307

01 พฤศจิกายน 2555

ทิศทางตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ คาดว่าการปรับตัวขึ้นมีโอกาสชะลอตัวลงเป็นระยะๆ

โดย...พงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ [email protected]

ทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงแรงไปทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,270 จุด ใกล้แนวรับ 1,270-1,265 จุด ที่ให้ไว้ในสัปดาห์ก่อน ก่อนปรับตัวขึ้นแรงขึ้นมาทดสอบบริเวณ 1,300 จุด อีกครั้งแต่ยังไม่สามารถผ่านได้ โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงมียอดขายสุทธิต่อเนื่อง สวนทางกับแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันที่เป็นปัจจัยหนุนตลาด

คาดหุ้นไทยชะลอตัวสั้นที่1,305-1,307

ในขณะที่ประเด็นเรื่องยุโรปยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก สเปนยังไม่ขอรับความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการ แต่มีการใช้เงินวงเงิน 6 หมี่นล้านยูโร จากวงเงินทั้งหมด 1 แสนล้านยูโร ที่เคยได้รับอนุมัติ ส่วนทางด้านสหรัฐประเด็นเรื่องพายุเฮอริเคนแซนดี ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการ 2 วัน และสร้างความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

ทิศทางตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ คาดว่าการปรับตัวขึ้นมีโอกาสชะลอตัวลงเป็นระยะๆ โดยทางเทคนิคมีแนวต้านที่บริเวณ 1,305-1,307 และ 1,315 จุด เชื่อว่าแรงขายของนักลงทุนต่างชาติจะเริ่มชะลอตัวลง

ในขณะที่ยอดสุทธิของนักลงทุนสถาบันจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทยไปจนถึงปลายปี เนื่องจากเม็ดเงิน LTF/RMF จะมีเข้ามาตลอดช่วงที่เหลือของปี โดยทั้งปีนี้ตลาดหุ้นไทยมีช่วงปรับตัวลดลงแรงเพียงเดือนเดียว คือ เดือน พ.ค. และไม่มีช่วงที่อ่อนตัวลงต่ำกว่า 1,100 จุด ทำให้เชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่ที่ต้องการซื้อ LTF/RMF ในปีนี้ยังไม่ได้มีโอกาสซื้อมากนัก และมีโอกาสที่จะทยอยซื้อเข้ามาในช่วงที่เหลือของปีนี้

ประเด็นของตลาดหุ้นสหรัฐ เป็นช่วงที่บริษัทจดทะเบียนทยอยประกาศผลประกอบการไปแล้ว ทำให้แรงขายจากเรื่องผลประกอบการที่ออกมาแย่หมดไป ส่วนประเด็นเรื่องแรงขายของนักลงทุนในสหรัฐเพื่อรับรู้กำไรจากเงินลงทุนในปีนี้ ก่อนที่จะถูกเก็บภาษีจากเงินลงทุนในปีหน้า เชื่อว่าจะค่อยๆ ลดระดับลง หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงแรงไปแล้วกว่า 3% และแรงขายดังกล่าวจะค่อยๆ ลดระดับลงในช่วงเดือน พ.ย. ก่อนวันหยุดยาวในเดือน ธ.ค.

ด้านประเด็นเรื่องผลกระทบจากเฮอริเคนแซนดี จะส่งผลให้ GDP ไตรมาส 4 สหรัฐลดลงมากสุดเหลือ 1% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 1.6% แต่โดยรวมจะถูกชดเชยจากการซ่อมแซมในไตรมาสถัดไป ทำให้โดยรวมไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจมากนัก

ประเด็นทางด้านยุโรปยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก สเปนยังไม่ขอรับความช่วยเหลือเต็มรูปแบบ หลังมีการประกาศกู้เงิน 6 หมื่นล้านยูโร จากวงเงินทั้งหมด 1 แสนล้านยูโร ในขณะที่กรีซสามารถยืดเวลาการลดยอดขาดดุลงบประมาณไปได้อีก 2 ปี นอกจากนี้ยังเตรียมขอรับเงินกู้งวดถัดไปในช่วงกลางเดือน พ.ย.นี้ หลังจากที่ Troika เข้าตรวจสอบสถานะทางการเงิน ซึ่งทางกรีซจะมีการเสนอแผนลดค่าใช้จ่ายในสัปดาห์นี้

ทิศทางเทคนิค ระยะสั้นคาดว่าการปรับตัวขึ้นจะมีแนวต้านที่จะจำกัดการปรับตัวขึ้นที่ 1,305-1,307 จุด ในครั้งแรกที่ทดสอบ โดยคาดว่าการทดสอบครั้งแรกจะมีช่วงชะลอตัวลงก่อน โดยหากมีการอ่อนตัวลงและยังไม่หลุดต่ำกว่า 1,280 จุด ทิศทางระยะสั้นยังไม่เสียทิศบวกและกลับมาปรับตัวขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้าน 1,305-1,307 จุดอีกครั้ง หากผ่านได้มีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่า 1,315 จุด

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ “ขายช่วงปรับตัวขึ้นตามแนวต้าน หลังจากให้ซื้อที่แนวรับในสัปดาห์ก่อน” เนื่องจากคาดว่าการปรับตัวขึ้นจะยังคงขาดความต่อเนื่อง และแนะนำให้รอการปรับฐานเพื่อเข้าซื้อสะสมอีกครั้ง เนื่องจากคาดว่าหากแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติหมดลงแล้ว ตลาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันที่มีสภาพคล่องเหลืออยู่มาก และจะมีเม็ดเงินจากกองทุน LTF/RMF เข้ามาอีกในช่วงสุดท้ายของ|ปีนี้ m