บจ.ไล่หุ้นเพื่อเพิ่มทุน

ชิงทิ้งTTA-ลุยซื้อSSIราคาฉิว ‘กึ้ง’ลั่นพร้อมใส่เงิน2พันล้าน

จี้ตลาดสอบ บจ.ไล่หุ้นก่อนเพิ่มทุน ทำรายย่อยจ่ายแพง TTA ระดมทุน 9,000 ล้าน มหากิจศิริพร้อมใส่เงิน ส่วน SSI วิ่งฉิว ขายหุ้นพีพีสำเร็จ 50 ล้านเหรียญ

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ควรเข้าไปตรวจสอบบริษัทจดทะเบียนที่มีพฤติกรรมเข้าไปไล่ราคาหุ้นให้ปรับตัวขึ้นแรง ก่อนที่จะประกาศข่าวเพิ่มทุนโดยขายในราคาต่ำกว่าตลาดขณะนั้น เพื่อจูงใจให้ผู้ถือหุ้นซื้อหุ้นแต่ต้องจ่ายในราคาแพงกว่าปัจจัยพื้นฐาน รวมถึงบริษัทที่กำลังเพิ่มทุนแต่ราคาหุ้นในกระดานยังต่ำกว่าราคาหุ้นเพิ่มทุนด้วย จึงต้องมีการไล่ราคาหุ้นเช่นกัน

แหล่งข่าวยกตัวอย่างกรณีบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) ที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นผิดปกติก่อนประกาศเพิ่มทุน จากที่เคยเคลื่อนไหวต่ำกว่า 16 บาท แต่ใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์ราคากลับพุ่งขึ้นแรงเกือบถึง 20 บาท ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายหนาแน่น และในที่สุดก็ประกาศขายหุ้นในราคา 14 บาท รายย่อยต้องจำใจต้องใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนตาม

ด้านคณะกรรมการ TTA มีมติเพิ่มทุนจำนวน 708 ล้านหุ้น จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 1 ต่อ 1 ในราคาหุ้นละ 14 บาท หากผู้ถือหุ้นใช้สิทธิทั้งจำนวนจะมีเงินเข้าบริษัท 9,910 ล้านบาท ซึ่งสามารถรองรับการขยายกองเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองจำนวน 15 ลำ และโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ TTA เปิดเผยว่า กลุ่มมหากิจศิริพร้อมจะใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้น ส่วนตัวซึ่งถือหุ้น TTA ในสัดส่วน 19% จะต้องใส่เงินประมาณ 2,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ยังไม่รวมหุ้นของ น.ส.อุษณา มหากิจศิริ อีก 27.41 ล้านหุ้น

สำหรับราคาขายหุ้นเพิ่มทุน 14 บาท ให้ส่วนลด 23% จากราคาปิดเมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่ระดับ 18.20 บาท เพื่อต้องการจูงใจให้ผู้ถือหุ้นใช้สิทธิ แต่ราคาหุ้นล่าสุดปิดที่ 16 บาท

“ผมมั่นใจและเชื่อว่าบริษัทจะฟื้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ และช่วงนี้เป็นจังหวะดีในการลงทุน ผมอยากให้ผู้ถือหุ้นทุกคนมีโอกาสและไปพร้อมกับผมด้วย” นายเฉลิมชัย กล่าว

ม.ล.จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA กล่าวว่า ระหว่างนี้จะมีการเดินสายพบผู้ถือหุ้นรายย่อยตามห้องค้าหลักทรัพย์ รวมถึงกองทุนในประเทศขนาดใหญ่ 5-10 กองแรก พร้อมกับประชุมทางไกลผ่านโทรศัพท์กับผู้ถือหุ้นที่เป็นกองทุนต่างประเทศ เพื่อทำความเข้าใจกับการขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้

ขณะที่ผลประกอบการปี 2555 สิ้นสุดเดือน ก.ย.นี้ ยอมรับว่ายังมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ แต่ในงวดปี 2556 คาดว่าจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ โดยคาดว่ารายได้รวมจะเติบโต 10%

ด้านบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) ซึ่งอยู่ระหว่างการเพิ่มทุนจำนวน 19,433.67 ล้านหุ้น โดยเปิดให้ผู้ถือหุ้นเดิมจองซื้อและชำระเงินระหว่างวันที่ 6-12 พ.ย.นี้ ในอัตรา 10 ต่อ 1 ในราคาหุ้นละ 0.68 บาท แต่ราคาหุ้นวันที่ 31 ต.ค. ปรับตัวขึ้นแรง โดยปิดที่ 0.66 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 8.20%

ล่าสุดบริษัทแจ้งว่า ได้ลงนามกับ JFE Steel Corporation (JFE) และ Marubeniltochu Steel Inc.(MISI) โดยทั้งสองบริษัทจะซื้อหุ้นเพิ่มทุน (พีพี) รายละ 25 ล้านเหรียญสหรัฐ ในราคา 0.68 บาทต่อหุ้น และจะลงทุนเพิ่มเติมในบริษัท เหล็กแผ่นรีดเย็นไทย (TCR) โดยจะซื้อหุ้นส่วนที่บริษัทถืออยู่ประมาณ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ