posttoday

ตลาดวืดเป้าครึ่งแรก

12 กรกฎาคม 2555

วิกฤตยุโรปพ่นพิษ 6 เดือนแรก มูลค่า-มาร์เก็ตแคป ห่างเป้า หวังครึ่งปีหลังกระตุ้นได้ตามเป้า

วิกฤตยุโรปพ่นพิษ 6 เดือนแรก มูลค่า-มาร์เก็ตแคป ห่างเป้า หวังครึ่งปีหลังกระตุ้นได้ตามเป้า

ตลาดวืดเป้าครึ่งแรก

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในช่วง 6 เดือนแรกของตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 3.02 หมื่นล้านบาท ห่างเป้าหมายที่ตั้งไว้เฉลี่ยทั้งปี 3.1-3.2 หมื่นล้านบาท และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) 6 เดือนแรก 4.46 หมื่นล้านบาท ห่างเป้าที่วางไว้ปีนี้ 1.2 แสนล้านบาท

สำหรับสาเหตุเนื่องจากภาวะตลาดชะลอตัวลง ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตในยุโรป ซึ่งจะเห็นได้ว่าในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงเหลือ 2.6 หมื่นล้านบาท

ขณะเดียวกันจำนวนสัญญาซื้อขายในตลาดอนุพันธ์เฉลี่ยต่อวันในช่วง 6 เดือนแรก อยู่ที่ 4.37 หมื่นล้านบาท สัญญายังห่างจากเป้าหมายเฉลี่ยทั้งปีที่ตั้งไว้ 5.5-5.7 หมื่นสัญญาต่อวัน

นายจรัมพร กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ยังคงเป้าหมายเดิม แต่จะมีการทบทวนเพื่อหาแนวทางให้ได้ตามเป้าหมาย เพราะมองว่าสภาพคล่องในโลกยังมีอยู่สูง เพียงแต่นักลงทุนเกิดความกังวลจากวิกฤตการเงินในยุโรป ทำให้เปลี่ยนการลงทุนไปยังตราสารมีความเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก แต่หากความเสี่ยงจากปัจจัยดังกล่าวลดลง เชื่อว่าเงินทุนจะไหลกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นไทยอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ มูลค่าการซื้อขายที่ชะลอตัวลงยังน้อยกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ เช่น จีน ลดลงถึง 30% ฮ่องกง ลดลง 20% ขณะที่อัตราราคาเทียบกับกำไรสุทธิ (พี/อี) ของตลาดหุ้นไทยยังต่ำอยู่ที่ 12 เท่า

นายจรัมพร กล่าวถึงเป้าหมายมาร์เก็ตแคปของหุ้นเข้าใหม่ในช่วง 6 เดือนแรก อยู่ที่ 4.46 หมื่นล้านบาท และเมื่อนับรวมหุ้นที่อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิง) 11 บริษัท คิดเป็นมาร์เก็ตแคป 2 หมื่นล้านบาท ห่างเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปี 1.2 แสนล้านบาท แต่เชื่อว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย

ทั้งนี้ เนื่องจากคาดหวังว่ามีบริษัทอีก 15 แห่ง ที่รอให้เกณฑ์กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และเกณฑ์บริษัทประกอบธุรกิจโดยการลงทุนในหุ้นของบริษัทอื่น (โฮลดิง คอมพานี) แล้วเสร็จ ซึ่งบริษัทเหล่านี้น่าจะเป็นส่วนสำคัญหลักในการผลักดันให้มาร์เก็ตแคปถึงเป้าหมายที่วางไว้

ตลาดหลักทรัพย์ได้จัดทำแผนแม่บทงานปฏิบัติการ (Operation Master Plan) และเตรียมจะนำเสนอสรุปผลการศึกษาต่อคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 18 ก.ค.นี้

นางนงราม วงษ์วานิช รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าวเสริมว่า แผนแม่บทดังกล่าวเป็นการปรับกระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันของตลาดหลักทรัพย์ และลดต้นทุนในการทำงาน โดยจะมีการเลือกผู้พัฒนาระบบการชำระราคาและส่งมอบ (เคลียริง เซตเทิลเมนต์) จากเดิมตลาดหลักทรัพย์เป็นผู้พัฒนาระบบเอง ซึ่งระบบใหม่จะดำเนินการปีหน้า หลังตลาดหลักทรัพย์และตลาดอนุพันธ์เปลี่ยนระบบซื้อขาย

ข้อดีของระบบเคลียริงใหม่ ทำให้ตลาดบริหารความเสี่ยงจากการชำระราคาในระบบปัจจุบันภายในสิ้นวัน และรองรับการซื้อขายในค่าเงินหลายสกุลในอนาคต

ด้านการลงทุนวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยมีหุ้นกลุ่มสื่อสารนำตลาด ดัชนีปิด 1,208.67 จุด เพิ่มขึ้น 4.25 จุด มูลค่าการซื้อขาย 24,327.90 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 773 ล้านบาท