posttoday

เอไอเอรณรงค์ขี่สองล้อใส่หมวกกันน็อก

24 มีนาคม 2554

เอไอเอ ประเทศไทย รณรงค์ลดอุบัติเหตุให้คนขี่-ซ้อนมอเตอร์ไซด์ใส่หมวกกันน็อก

เอไอเอ ประเทศไทย รณรงค์ลดอุบัติเหตุให้คนขี่-ซ้อนมอเตอร์ไซด์ใส่หมวกกันน็อก

นายรอน แวน โอเยน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทจัดโครงการ “รอยยิ้มของความปลอดภัยจากใจเอไอเอ” ขึ้น โดยในระหว่างวันที่ 24 มี.ค. ถึง 15 พ.ค. 2554 โดยจะจัดกิจกรรมรณรงค์ให้คนไทยสวมหมวกนิรภัยเมื่อขับขี่หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปตามถนนสายธุรกิจของกรุงเทพฯ หัวเมืองใหญ่ รวมทั้งที่ถนนสายข้าวทั้ง 9 แห่งทั่วประเทศในช่วงเทศกาลสงกรานต์  ซึ่งกิจกรรมนี้สอดคล้องกับนโยบายของสหประชาชาติที่ต้องการให้ทุกประเทศทั่วโลกตระหนักถึงความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนและให้ถือเป็นปัญหาระดับโลกที่ทุกประเทศต้องร่วมมือกันแก้ไข โดยกำหนดให้ปี 2554 – 2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน โดยประเทศไทยได้กำหนดให้ปี 2554 เป็น “ปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย 100%”

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ ศวปถ. ยังบ่งชี้ว่าการสวมหมวกนิรภัยจะสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตขณะขับขี่หรือโดยสารบนรถจักรยานยนต์ได้มากถึง 57 คนใน 100 คน  โดยผู้ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยจะมีอัตราเสี่ยงเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุมากกว่าผู้ที่ใช้หมวกนิรภัยถึง 2.347 เท่า

นอกจากนี้ จากข้อมูลของศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การสนับสนุนของ สสส. พบว่า ในเทศกาลแห่งความสุขของคนไทยเมื่อช่วงสงกรานต์ปี 2552 ที่ผ่านมา พบมีผู้ประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมากกว่า 5,000 คน และเสียชีวิตมากถึง 380 คนหรือเฉลี่ย 52 คนต่อวัน  ประมาณครึ่งหนึ่ง (24 คนต่อวันหรือ 1 คนต่อชั่วโมง) เสียชีวิตจากการขับขี่หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ซึ่งหากคำนวณเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจจะสูงมากถึงปีละ 2 แสนล้านบาทหรือประมาณ  2.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)

บริษัทได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในการร่วมเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนตระหนักถึงความปลอดภัยจากการสวมหมวกนิรภัยเมื่อขับขี่หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไม่ว่าจะในระยะไกลหรือใกล้  เพราะหมวกนิรภัยจะเป็นเครื่องป้องกันอาการบาดเจ็บจากศีรษะกระแทกพื้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางถนน