posttoday

TMB เผยกลยุทธ์ 4 ด้านเติบโตคุณภาพในปี 53

02 กุมภาพันธ์ 2553

ธนาคารทหารไทยเปิด 4 กลยุทธ์หลักดันรายได้เติบโต 15% คาดสรุปผลล้างขาดทุนสะสมในเม.ย.นี้ นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้ารที่บริหาร ธนาคารทหารไทย แถลงทิศทางธุรกิจในปี 53 โดยวาง 4 กลยุทธหลัก คือ เติบโตอย่างมีคุณภาพ, ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน, ลดโอกาสการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ใหม่ และ ลดหนี้เสียเดิมลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึง นำเสนอบริการและผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้า ตั้งเป้าหมายทางธุรกิจ ได้แก่ รายได้เติบโต 15% โดยในส่วนของรายได้ค่าธรรมเนียมจะเติบโต 20% ด้านเงินฝากขยายตัว 17% และสินเชื่อขยายตัว 10% แบ่งเป็นสินเชื่อเอสเอ็มอีจะเติบโต 20% สินเชื่อรายใหญ่เติบโต 10% และสินเชื่อรายย่อยเติบโต 7-8%

ธนาคารทหารไทยเปิด 4 กลยุทธ์หลักดันรายได้เติบโต 15% คาดสรุปผลล้างขาดทุนสะสมในเม.ย.นี้
 
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้ารที่บริหาร ธนาคารทหารไทย แถลงทิศทางธุรกิจในปี 53 โดยวาง 4 กลยุทธหลัก คือ เติบโตอย่างมีคุณภาพ, ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน, ลดโอกาสการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ใหม่ และ ลดหนี้เสียเดิมลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึง นำเสนอบริการและผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้า ตั้งเป้าหมายทางธุรกิจ ได้แก่ รายได้เติบโต 15% โดยในส่วนของรายได้ค่าธรรมเนียมจะเติบโต 20% ด้านเงินฝากขยายตัว 17% และสินเชื่อขยายตัว 10% แบ่งเป็นสินเชื่อเอสเอ็มอีจะเติบโต 20% สินเชื่อรายใหญ่เติบโต 10% และสินเชื่อรายย่อยเติบโต 7-8%

ธนาคารยังวางกรอบการพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์ โดยลดโอกาสการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ซึ่งธนาคารตั้งเป้าลด NPL จากที่มีสัดส่วน 12.7% ของสินเชื่อรวม ณ สิ้นปี 52 ให้เหลือ 9% หรือต่ำกว่า ด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ และการขาย NPL เมื่อมีโอกาสที่เหมาะสม ขณะเดียวกัน ในระยะยาวธนาคารจะสร้างอัตราผลตอบแทนจากส่วนผู้ถือหุ้น(ROE)ให้แตะ 14% ในปี 57

"ในปี 52 ROE ของธนาคารอยู่ระดับ 4% และตั้งเป้าเพิ่ม ROE เป็น 14% ภายในปั 57 ซึ่งมั่นใจว่าน่าจะทำได้ โดยธนาคารจะต้องมีอัตราการเติบโตของกำไรเฉลี่ยปีละ 10-20% มีการเติบโตของสินเชื่อปีละ 20-30% เพื่อ ROE เป็นไปตามเป้าหมาย"นายบุญทักษ์ แถลง
 
ขณะที่แผนการล้างขาดทุนสะสมของธนาคารจะไม่กระทบต่อ ROE และ เงินกองทุนของธนาคาร ซึ่งปัจจุบันมีอยู่จำนวน 6.3  หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ แผนการล้างขาดทุนสะสม คาดว่าจะมีข้อสรุปภายในไตรมาส 1/53 เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือน เม.ย. นี้
         
ธนาคารมีเป้าหมายดำเนินการล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 4 แสนล้านบาท ซึ่งมาจากผลขาดทุนสะสม 1 แสนล้านบาท และการขาดทุนจากการขายหุ้นต่ำกว่าพาร์ 3 แสนล้านบาท โดยจะการดำเนินการทางบัญชีเพื่อให้มูลค่าที่ตราไว้(Par)ใกล้เคียงกับมูลค่าทางบัญชี (Book value) ซึ่งจะดำเนินการหลังจากกระทรวงการคลังแปลงหุ้นบุริมสิทธิ์เป็นหุ้นสามัญที่จะครบกำหนดในวันที่ 19 พ.ค.53
         
"ตอนนี้เรากำลังดำเนินการเรื่องการล้างขาดทุนสะสมกับกระทรวงการคลัง เชื่อว่ากระทรวงการคลังเช้าใจในประเด็นต่างๆ และพร้อสนับสนุนสิ่งที่ธนาคารกำลังทำ รวมถึงแผนธุรกิจ" นายบุญทักษ์ กล่าว
         
นายบุญทักษ์ ยังกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นนั้น เชือว่าไม่กระทบองค์กร เพราะธนาคารเป็นสถาบันที่มีแผนธุรกิจชัดเจน มีผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถ  มีทิศทางธุรกิจที่สร้างคุณค่าให้ผู้ถือหุ้น ดังนั้น ไม่ว่าผู้ถือหุ้นจะมีการเปลี่ยนแปลงไป แต่นโยบายน่าจะสอดคล้องกับธุรกิจของธนาคาร 

นายบุญทักษ์ กล่าวว่า ธนาคารพร้อมจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หากการล้างขาดทุนสะสมทำได้สำเร็จ และผลประกอบการครึ่งปีแรกมีกำไร