posttoday

ขายสลากดิจิทัลวันแรก 2.4 ล้านใบเกลี้ยง "กองสลาก"แจงวิธีขึ้นรางวัล

03 มิถุนายน 2565

สำนักงานสลากฯ แจงผลจำหน่ายสลากดิจิทัล ผ่านแอปเป๋าตัง วันแรก (2 มิ.ย.65) ผลตอบรับเป็นไปด้วยดี มีผู้ซื้อสลากฯ 6.1 แสนคน จำนวน 2.4 ล้านใบ พร้อมชี้แจงวิธีขึ้นเงินรางวัล

เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.65 นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึง ยอดการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มในวันแรกว่า ผลตอบรับเป็นไปด้วยดี ระบบมีความราบรื่น อาจจะเพราะเป็นการขายวันแรก เป็นเรื่องใหม่ จึงได้รับความสนใจ ที่สำคัญคือ สามารถซื้อได้ในราคา 80 บาท โดยเมื่อวานนี้ หลังจากสิ้นสุดเวลาจำหน่าย 23.00 น. มียอดจำหน่ายสลาก 2,460,723 ใบ จำนวนผู้ซื้อสลาก 612,141 คน ใบ จากจำนวนสลากทั้งหมด 5,279,500 ฉบับ ส่วนแนวทางการเพิ่มจำนวนสลากจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มนั้น คงต้องพิจารณาความเหมาะสม เพราะสำนักงานสลากฯ เอง ก็ต้องการให้สลากแบบใบสามารถขายควบคู่กันไปได้ ไม่ได้รับผลกระทบ ต้องดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป เมื่อวานนี้ ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และเห็นว่าสลากดิจิทัลเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ผู้ซื้อสามารถมาซื้อสลากได้ในราคา 80 บาทแน่นอน และระบบมีความพร้อมให้ผู้ที่ต้องการซื้อสลาก สามารถซื้อได้อีกทั้งในกรณีที่ถูกรางวัล ก็เลือกขึ้นเงินรางวัลผ่านแอพพลิเคชันได้ทันที นอกเหนือจาก การซื้อสลากจากโครงการ จุดจำหน่ายสลาก 80 บาทที่จะเพิ่มจุดจำหน่าย 1,000 จุด ทั่วประเทศไทย ได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้

สำหรับวิธีการขึ้นเงินรางวัลนั้น พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า กรณีถูกรางวัล ระบบจะแจ้งเตือนไปที่แอพลิเคชันเป๋าตัง ภายในเวลา 18.00 น. ของวันที่ออกรางวัล โดยให้เลือกรับรางวัลได้ 2 ช่องทางคือ เลือกรับโดยการโอนเงิน ซึ่งจะโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยที่ผูกไว้กับแอพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งในอนาคตจะปรับเปลี่ยนให้สามารถผูกบัญชีธนาคารอื่น ๆ ได้ เพื่อความสะดวกของผู้ซื้อ วิธีนี้จะเสียค่าธรรมเนียม 1% และ ค่าภาษีอากรแสตมป์ 0.5% ส่วนวิธีที่สอง สามารถเลือกมารับเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ โดยต้องกำหนด วัน เวลา ที่ต้องการเข้ามารับเงินรางวัลเพื่อที่สำนักงานสลากฯ จะจัดเตรียมสลากแบบใบตัวจริง เพื่อส่งคืนให้กับผู้ซื้อ เพื่อเข้าสู่กระบวนการขึ้นเงินรางวัล วิธีนี้จะเสียเฉพาะค่าภาษีอากรแสตมป์ 0.5% ทั้งนี้ ยืนยันว่าการกำหนดค่าธรรมเนียม และค่าอากรแสตมป์ดำเนินการเช่นเดียวกับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการนำสลากไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลาก หรือธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารกรุงไทย

ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวต่อไปว่า กรณีที่ถูกรางวัลสลากที่จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มฯ จะต้องแจ้งในระบบว่า จะเลือกรับเงินรางวัลผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่งภายใน 15 วัน หากไม่แจ้งภายในกำหนด จะต้องมาขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากภายใน 2 ปี โดยสลากที่จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม หรือดิจิทัล ที่ซื้อไว้จะแสดงอยู่ในประวัติข้อมูลการซื้อ 1 ปี ทั้งนี้ หากเลือกรับเงินรางวัลผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีที่ผูกไว้ จะได้รับเงินโอนหลังจากที่แจ้ง ภายในระยะเวลา 12 ชั่วโมง ซึ่งยืนยันว่าจากที่ทดสอบระบบ การโอนเงินรางวัลไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ขอให้ผู้ซื้อสลากทุกคนไม่ต้องกังวล

พันโท หนุน ศันสนาคม กล่าวว่า การจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มหรือสลากดิจิทัลนั้น สลากทุกใบเป็นของตัวแทนจำหน่ายรายย่อย สำนักงานสลากฯ เป็นแต่เพียงสนับสนุน จัดหาช่องทางการจำหน่ายในราคา 80 บาท ที่ได้ประโยชน์ทั้งผู้ซื้อ และ ส่งเสริมตัวแทนรายย่อยผู้ขาย ให้สามารถวางขายในแพลตฟอร์มซึ่งมีผู้เข้ามาซื้อเป็นจำนวนมาก ไม่ต้องเสียค่าใช้ในการเร่ขาย ขณะเดียวกัน ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการมอมเมา เพราะปัจจุบัน ประชาชนที่ซื้อสลากตามแผงจำหน่ายก็สามารถซื้อได้แบบไม่จำกัดจำนวนอยู่แล้ว และขอย้ำว่า สลากทุกใบเป็นของพ่อแม่พี่น้องตัวแทนรายย่อย ดังนั้น การจำหน่ายสลากดิจิทัล นอกจากประชาชนผู้ซื้อจะสามารถซื้อสลากได้ในราคาที่กำหนด คือ 80 บาทแล้ว ยังเป็นการช่วยส่งเสริมอาชีพ ส่งเสริมรายได้ให้กับพ่อแม่พี่น้องที่เป็นตัวแทนรายย่อยอีกด้วย