สอบประมูลท่อส่งน้ำอีอีซี 2.5 หมื่นล้าน ฉลุย 15 วันจบ

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมได้เสนอให้รมว.คลัง ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงการประมูล ได้สัมปทานโครงการบริหารและดำเนินกิจการท่องส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก (EEC) ที่มีบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล โดยให้ดำเนินการให้เสร็จภายใน 15 วัน หลังที รมว.คลังมีคำเซ็นแต่งตั้ง

สำหรับประเด็นการตรวจสอบของคณะกรรมการ ก็จะพิจารณาว่าการประมูลโครงการที่ผ่านมา เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และจะมีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานที่จริง เพื่อเตรียมประเด็นการส่งมอบว่าจะมีประเด็นการส่งมอบรับมอบของผู้ได้รับสัมปทานรายเดิมกับรายใหม่หรือไม่

"ที่สำคัญที่สุด วันที่มีการเปลี่ยนผู้บริหารท่อส่งน้ำอีอีซี จะต้องไม่มีความเสี่ยงกับผู้ใช้น้ำที่เป็นหลักการสำคัญ ดังนั้นเมื่อมีการเซ็นสัญญาจะต้องให้ทั้ง 3 ฝ่าย คือ ผู้ที่จะเข้ามาบริหารรายใหม่ รายเดิมที่บริหารอยู่ และกรมธนารักษ์ รวมถึงผู้ใช้น้ำบางส่วน ต้องลงพื้นที่พร้อมกันเพื่อดูให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนผ่านไม่มีความเสี่ยงเรื่องการใช้น้ำเกิดขึ้น" นายประภาศ กล่าว

นายประภาศ กล่าวว่า การตั้งกรรมการสอบครั้งนี้เป็นการรีเช็ตเท่านั้น เพราะการดำเนินการประมูลที่ผ่านมา กรมธนารักษ์ยืนยันมาตลอดว่าถูกต้อง แต่เมื่อมีประเด็นทั้งสังคมและฝ่ายค้านว่าเกิดอะไรขึ้นในการประมูล จนกรมธนารักษ์ต้องมีการเลื่อนการเซ็นสัญญาออกไป ก็เพื่อตั้งกรรมการชุดนี้ขึ้นมาเพื่อให้เห็นข้อมูลว่าที่่ผ่านมาการประมูลดำเนินการไปถูกต้องอย่างไร

สำหรับกำหนดเวลาที่ธนารักษ์จะเซ็นสัญญากับบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง ต้องรอหลังคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงดำเนินการเสร็จ ซึ่งต้องยอมรับว่าการเซ็นสัญญาล่าช้าทำให้กรมธนารักษ์มีความเสี่ยงเลี่ยงปฏิบัติหน้าที่ได้ เพราะตามกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่า เมื่อคณะกรรมการที่ราชพัสดุเห็นชอบผู้ชนะการประมูลโครงการแล้ว หน้าที่ของกรมธนารักษ์จะต้องจัดให้การเซ็นสัญญากับผู้ชนะการประมูล

"เหตุผลที่กรมธนารักษ์จะไม่ลงนามกับผู้ชนะการประมูลบริหารโครงการท่อน้ำอีอีซีรายใหม่ มีอยู่อย่างเดียวเท่านั้น คือต้องมีคำสั่งศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราว ถ้าตราบใดไม่มีคำสั่งศาลปกครองให้มีการคุ้มครองชั่วคราว การเซ็นสัญญากับผู้ชนะรายใหม่ต้องเดินหน้า ไม่เช่นนั้นกรมธนารักษ์จะละเว้นปฏิบัติหน้าที่" นายประภาศ กล่าว