posttoday

"บิ๊กตู่"บอกถูกจ้องรุมว่าผมชอบกู้เงินมาก

04 พฤษภาคม 2565

บิ๊กตู่ บอกกู้เงินจากญี่ปุ่น 50,000 ล้านเยน เพราะดอกเบี้ยถูก ไม่อยากให้แต่จ้องรุมผมว่าชอบกู้เงินมาก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า นึกอยู่แล้วว่ามีรูปตัวเองกับนายกญี่ปุ่นที่จะให้ไทยกู้เงิน ก็มีการรุมและเล่นงานผมว่าจะกู้เงินอีกแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงเงินกู้จากประเทศญี่ปุ่นก้อนนี้อยู่ในส่วนเดียวกับ พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ซึ่งมีการอนุมัติไปก่อนหน้านี้

"เรื่องการกู้เงินไม่ว่าจะเป็นการออก พ.ร.ก. 1 ล้านล้านบาท หรือการออก พ.ร.ก. 5 แสนล้านบาท ก็จะค่อยๆ ทยอยกู้มาตามความจำเป็น โดยจะกู้เงินจะแหล่งภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งในส่วนของการกู้เงินญี่ปุ่น เนื่องจากญี่ปุ่นต้องการช่วยและให้ดอกเบี้ยกู้ที่ต่ำ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่อยากให้ใครบอกว่ารัฐบาลกู้เงินอีกแล้วเลย เพราะรัฐบาลการเงินการคลังด้วยความระมัดระวัง ทำให้ฐานะการเงินการคลังของประเทศมีความเข็มแข็ง หากไม่เช่นนั้นก็ไม่มีใครให้รัฐบาลกู้ แต่รัฐบาลก็จะกู้เงินเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ต้องรู้ว่ากู้ไปทำอะไรใครจะได้ประโยชน์

"บิ๊กตู่"บอกถูกจ้องรุมว่าผมชอบกู้เงินมาก

ด้านกระทรวงการคลังได้เปิดเผยภาพ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 ที่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง และ Mr. Morita Takahiro ผู้แทนจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency: JICA) ได้ร่วมกันลงนามในสัญญาเงินกู้สำหรับ COVID-19 Crisis Response Emergency Support Loan วงเงิน 50,000 ล้านเยน ณ กระทรวงการคลัง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

กระทรวงการคลังได้ดำเนินการลงนามในสัญญาเงินกู้ COVID-19 Crisis Response Emergency Support Loan ของรัฐบาลญี่ปุ่นผ่าน JICA วงเงิน 50,000 ล้านเยน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 อายุเงินกู้ 15 ปี มีระยะเวลาปลอดเงินต้น (Grace Period) 4 ปี ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นให้เงินกู้แก่ประเทศต่างๆ เพื่อใช้สำหรับแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งการกู้เงินดังกล่าวเป็นการดำเนินการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (พ.ร.ก. โควิด เพิ่มเติม พ.ศ. 2564) โดยการลงนามในสัญญาเงินกู้ดังกล่าวเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากการลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลญี่ปุ่น (Exchange of Notes) และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ระหว่างนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและ Mr. Kazuya Nashida เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

"บิ๊กตู่"บอกถูกจ้องรุมว่าผมชอบกู้เงินมาก

การกู้เงินครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศในหลากหลายมิติซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ พ.ร.ก. โควิด เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 เพื่อใช้สนับสนุนด้านการแพทย์และสาธารณสุขในการป้องกันและรักษาผู้ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 การเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน การรักษาระดับการจ้างงานจากผลกระทบของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นอกจากนี้ การกู้เงินจากรัฐบาลญี่ปุ่นในครั้งนี้จะช่วยลดการแย่งชิงทรัพยากรจากตลาดการเงินในประเทศ (Crowding Out) และเป็นการเพิ่มแหล่งเงินทุนระยะยาวที่มีต้นทุนต่ำเพื่อช่วยประหยัดภาระดอกเบี้ยของรัฐบาล รวมทั้งยังเป็นการเสริมสร้างสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งเงินกู้ดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาขยายตัวอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019