"ดร.พิสิฐ" เสนอให้รัฐบาลยกเครื่องฐานะการคลังประเทศ
"ดร.พิสิฐ" เสนอรัฐบาลยกเคื่องการคลังประเทศ แก้ปัญหาก่อหนี้สูง เก็บรายได้ให้มากขึ้น เพื่อลดการกู้ขาดดุลงบประมาณ
ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม รองประธานคณะ กมธ. การเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน คนที่สอง เป็นประธานการประชุมคณะ กมธ. ครั้งที่ 67 ร่วมกับ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อพิจารณาภาพรวมเศรษฐกิจของปี 65 ซึ่งประมาณไว้ก่อนสงครามยูเครนที่ 5.7% และเงินเฟ้อ 1.7%
ส่วนการจัดเก็บรายได้ของภาครัฐ ในรอบครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2565 ยังเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีรายได้มากขึ้นจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้การจัดทำงบประมาณปี 2566 สามารถตั้งประมาณการการจัดเก็บรายได้ไว้สูงกว่าปี 2565 จำนวน 9 หมื่นล้านบาท ทำให้สามารถใช้เพื่อเตรียมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ที่ตั้งไว้ 3.185 ล้านล้านบาท
ดร.พิสิฐ แสดงความเห็นว่า แม้ตัวเลขเงินเฟ้อจะสูงขึ้น แต่ผลกระทบจากภายนอกโดยเฉพาะสงครามในยูเครนจะทำให้จีดีพีไทยถูกกระทบ ดังนั้นเพื่อเป็นหนทางจำกัดการขยายตัวของการขาดดุลและหนี้สาธารณะจึงต้องดูแลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลและปรับปรุงรายจ่ายประจำ เพื่อให้มีวงเหลือให้ส่วนราชการต่าง ๆ สามารถขยายงานเพื่อการพัฒนาประเทศได้มากขึ้น