สรรพากร รีดภาษีหุ้นปีนี้ คนขายเสียล้านละพันบาท

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่าสรรพากรเร่งศึกษาการเก็บภาษีการขายหุ้น ตามนโยบายของกระทรวงการคลัง ซึ่งกฎหมายของกรมสรรพากรมีอำนาจให้จัดเก็บภาษีดังกล่าวอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมามีการยกเว้นการจัดเก็บมา 30 ปี ตอนนี้ต้องนำมาพิจารณาแนวทางจัดเก็บที่เหมาะสมที่สุด โดยทางธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วย เพื่อศึกษาแนวทางเพื่อให้มีรูปแบบการจัดเก็บภาษีให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล

ทั้งนี้ ในการจัดเก็บภาษีหุ้นมีส่วนใหญ่ในต่างประเทศมี 2 รูปแบบ คือ การเก็บจากส่วนต่างของกำไร (แคปปิตอล เกนท์) แต่การดำเนินการยุ่งยาก เป็นภาระกับผู้เสียภาษีมากกว่า หากกรมสรรพากรดำเนินการรูปแบบนี้ต้องออกระเบียบและแก้กฎหมายใหม่

แบบที่สองเป็นการเก็บภาษีจากธุรกรรมการซื้อขายหุ้น ซึ่งประเทศอาเซียนส่วนใหญ่จัดเก็บวิธีการนี้ ล่าสุดมาเลเซีย เริ่มต้นวันแรกของตลาดหุ้นปี 2565 ก็ได้ปรับเพิ่มอัตราภาษีจากธุรกรรมการซื้อขายหุ้นเป็น 0.15% จาก 0.1% มีเพียงไทยและสิงคโปร์เท่านั้นที่ยังไม่มีการจัดเก็บภาษีหุ้น แต่สิงคโปร์มีการเก็บภาษีอากรแสตมป์จากการซื้อขายหุ้น

สำหรับแนวทางการจัดเก็บภาษีจากธุรกรรมการซื้อขายหุ้นน่าจะเหมาะสมกับประเทศไทยมากที่สุด โดยในต่างประเทศจัดเก็บทั้ง 2 ขา ทั้งขาขายและขาซื้อ แต่ในส่วนของไทยที่ศึกษากันจะเก็บจากการขายหุ้นฝั่งเดียวเท่านั้น ซึ่งภาระไม่ได้เยอะ โดยมีอัตราจัดเก็บที่ 0.1% เท่ากับหากมีการขายหุ้นมูลค่า 1 ล้านบาท จะต้องเสียภาษีเพียง 1,000 บาทเท่านั้น

“กรมสรรพากรจะเสนอการเก็บภาษีหุ้นให้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง พิจารณาในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งการจะเริ่มเก็บต้องดูสภาพตลาดหุ้นด้วย ซึ่งแม้มีการระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ตลาดหุ้นไทยก็มีดัชนีเพิ่มขึ้น และมูลค่าการซื้อขายก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากมีการจัดเก็บภาษีจากการขายหุ้นในปีนี้ ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นไทยมากนัก” นายเอกนิติ กล่าว

นายเอกนิติ กล่าวอีกว่า การเก็บภาษีหุ้นไม่ได้มุ่งหวังเรื่องของรายได้เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างความเป็นธรรมในระบบภาษีด้วย เพราะเป็นการเสียในรูปแบบภาษีธุรกิจเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันธุรกิจธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกัน การซื้อขายอสังหาริมทรัยพ์ ก็ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะทั้งหมดไม่ได้รับการยกเว้น ซึ่งภาษีหุ้นก็อยู่ในหมวดธุรกิจเฉพาะที่จะต้องเสียภาษีในอัตรา 0.1% แต่ทีผ่านมาได้รับการยกเว้นมาเป็นเวลา 30 ปี

ก่อนหน้านี้ นายอาคม ระบุว่า ยอมรับว่ามีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการเก็บภาษีจากการขายหุ้น ส่วนหนึ่งเพื่อช่วยเพิ่มฐานรายได้ให้ภาครัฐ และการเก็บภาษีจากการขายหุ้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ที่ผ่านมามีการยกเว้นให้มา30ปีแล้ว ตอนนี้ก็มาพิจารณานั่งดูว่าจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง เพราะตลาดหุ้นทั่วโลกมีการเก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้น เก็บจากอากรแสตมป์และเก็บภาษีจากกำไรจากการขายหุ้น โดยได้มอบให้กรมสรรพากรไปดูว่าการจัดเก็บตรงนี้มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน