posttoday

โควิด โอไมครอน พ่นพิษลุ้นระทึก "ปิดหรือเปิดประเทศ"

30 พฤศจิกายน 2564

ต้องลุ้นกันใจหายใจคว่ำว่ารัฐบาลจะประกาศ "ปิด หรือ เปิดประเทศ" หรือไม่ หลัง โควิดพันธุ์ใหม่ โอไมครอน ออกอาละวาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว

การเกิดขึ้นของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน กระทบกับการเปิดประเทศของไทยเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ เข้าอย่างจัง ชนิดที่เรียกว่าไม่มีสายพันธุ์ใหม่ก็แย่แล้ว

แต่พอมีสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน เข้ามายิ่งเป็นความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ทำให้การเปิดประเทศของไทยจะไปรอดหรือไม่? เกิดขึ้นเป็นคำถามตัวโตขึ้นกับคนไทยทั้งประเทศทันที

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ล่าสุดที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน มีมติเห็นชอบยกเลิกการผ่อนผันเปิดประเทศ ในส่วนของผู้ที่เดินทางเข้ามาในไทย ยังต้องตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ต่อไปแบบไม่มีกำหนด หลังจากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 หรือ ศบค. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ นั่งเป็นประธาน เห็นชอบให้มีการผ่อนตรวจแบบ ATK แทน RT-PCR เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามา

การกลับลำแบบหน้าเป็นหลังเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไม่ไหวใจ โควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน ว่าจะเอาอยู่ จากที่ก่อนหน้านี้มีการสั่งห้ามบุคคลใน 8 ประเทศ ในทวีปแอฟริกาที่คาดเป็นต้นกำเนิดของการเกิดโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน เข้าไทยแล้วก็ตาม

เพราะหากดูจากประเทศญี่ปุ่น ที่สั่งปิดประเทศห้ามคนต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ ก็ยังพบผู้ที่ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน รายแรกเป็นที่เรียบร้อย และเชื่อว่าจะพบคนต่อไปรายที่ร้อยรายที่พันอีกในไม่ช้า

ขณะที่ฮ่องกงสั่งห้ามนักเดินทางจากยุโรปหลายประเทศ รวมถึงจากประเทศอิสราเอล เนื่องจากประเทศกลุ่มนี้มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าเดินทางกลับมาจากประเทศในทวีปแอฟริกา

ด้าน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังออกมาให้ความเห็นว่า โควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐพังได้ จากที่ก่อนหน้านี้องค์การอนามัยโลกออกมาเป็นห่วงว่าทั้งโลก ตกอยู่ในความเสี่ยงของโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน

ย้อนกลับมาการเปิดประเทศของไทย จะไปรอดหรือไม่ วันนี้เชื่อว่าแม้แต่นายกรัฐมนตรีก็ไม่กล้าฟันธง เพราะขนาดญี่ปุ่นปิดทั้งประเทศไม่ให้ใครเข้ายังพบคนติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน และไทยที่ยังเปิดอยู่จะรอดได้อย่างไร

โดยก่อนหน้านี้ ไทยห้ามคนใน 8 ประเทศ ในทวีปแอฟริกา เข้าไทย แต่ก็พบว่าก่อนหน้าปิดมีคนในกลุ่มประเทศเหล่านี้เดินทางเข้าไทยมานับกว่าพันคนแล้ว และที่สำคัญไทยยังไม่ขยายการห้ามคนกลุ่มประเทศยุโรปเข้าไทย เหมือนที่ฮ่องกงทำ เท่ากับไทยยังเสี่ยงกับเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน มากถึงมากที่สุด

มีการประเมินกันว่า หากไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จะตัดสินใจล็อกดาวน์ปิดประเทศหรือไม่ ซึ่งเท่ากับเป็นการดับฝันตัวเอง จากที่ตั้งเป้าให้การเปิดประเทศเป็นตัวชูโรงเรียกความมั่นใจทางเศรษฐกิจ และฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาลืมตาอ้าปากได้

เมื่อดูการเปิดประเทศที่ผ่านมาตั้งแต่ 1 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จหรือไม่ ทางการมีการเคลมว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาวันละประมาณ 3,000 คน และมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็มีคำถามว่าในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวจริงๆ หรือ เป็นคนต่างชาติที่เคยทำงานในประเทศไทยอยู่แล้วและเดินทางกลับมา แต่รัฐบาลเหมาเข่งนับเป็นนักท่องเที่ยวทั้งหมด เพื่อให้ดูการเปิดประเทศคึกคักประสบความสำเร็จ

นอกจากนี้ ยังพบว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา แม้มีการตรวจอย่างดี ก็ยังพบว่ามีผู้ติดเชื่อมากกว่า 100 คนแล้ว แม้จำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับคนทั้งหมดที่เข้ามา แต่ต่อไปจากนี้นักท่องเที่ยวที่เข้ามามีความเสี่ยงจะตรวจพบว่าติดโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน  มากขึ้น

จุดชี้เป็นชี้ตายของการเปิดประเทศ อยู่ที่เมื่อไทยพบผู้ติดเชื้อ โควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน รัฐบาลจะตัดสินใจอย่างไร จะกล้าปิด "การเปิดประเทศ" ทันทีหรือไม่ ถึงแม้ล่าสุดรัฐบาลจะออกมาปฏิเสธว่ายังไม่มีแผนการล็อกดาวน์ประเทศก็ตาม

หากดูตัวเลขการเปิดประเทศที่ผ่านมา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประเมินว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทยปีนี้ 2 แสนราย สร้างรายได้ให้ประเทศ 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่รัฐบาลประเมินไว้มากว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นล้านคน

ขณะที่ปี 2565 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 5 ล้านคน สร้างรายได้ให้กับประเทศ 4.4 แสนล้านคน แต่เมื่อโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน เข้ามาเป็นความเสี่ยงน่ากลัวหน้าผวาใหม่เช่นนี้ ย่อมทำให้การท่องเที่ยวของไทยไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายแน่นอน

ถึงวันนี้ โควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน จึงเป็นระเบิดชีวภาพร้ายแรงที่กำลังระเบิดใส่การเปิดประเทศของไทยอยู่ในวิกฤต ที่ประเมินจากสถานการณ์โลกและประเทศในภูมิภาพเอเชียด้วยกัน ประเทศไทยเลี่ยงที่จะปิด "การเปิดประเทศ" ได้อยากเหลือเกิน

นับจากวันนี้ทุกวินาทีมีความสำคัญ ที่รัฐบาลต้องเร่งบอกความจริงๆ จะต้องปิดประเทศรอบใหม่เพื่อป้องกันการระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน หากต้องทำก็ต้องรับตัดสินใจ รีบบอกให้ประชาชน ผู้ประกอบการ นักลงทุนได้เตรียมตัว ไม่ใช่บอกไม่ปิดไม่ล็อกดาวน์ แต่สุดท้ายทำไม่ได้อย่างที่บอก เป็นการส่งสัญญาณให้ประชาชนเกิดความสับสน

การที่รัฐบาลฝืนไปแค่เพียงไม่อยาก ให้การเปิดประเทศกลายเป็นฝันสลายอาจจะได้ไม่คุ้มเสีย ความเสียหายจากการระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน ในไทย อาจจะสร้างความเสียหายกับเศรษฐกิจกับสังคมมากกว่า ที่ได้จากการเปิดประเทศ จนทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจและสังคมของไทยรอบใหม่