posttoday

คลังจ่อมาตรการ “ภาษีรถอีวีคันแรก”

30 พฤศจิกายน 2564

คลังจ่อมาตรการ “ภาษีรถอีวีคันแรก” คาดมีผลอย่างเร็วสุด 1 ม.ค.2565 ย้ำราคารถต้องไม่แพงกว่ารถน้ำมัน

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ได้พิจารณาเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการนำเสนอ คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เป็นประธาน พิจารณาในช่วงเดือน ธ.ค. นี้ โดยคาดว่ามาตรการภาษีรถอีวี จะมีผลในปี 2565 หรือ อย่างเร็วที่สุดมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565 นี้

ทั้งนี้ ภาษีรถอีวี จะต้องมีลักษณะที่สนับสนุนให้คนมีรถได้ คล้ายกับมาตรการภาษีรถคันแรก แต่รายเอียดจะต้องรอให้ นายสุพัฒนพงษ์ เป็นผู้ชี้แจงทั้งหมด โดยจะมีการตั้งกองทุน เข้ามาสนับสนุนในเรื่องของราคา รวมทั้งพิจารณาเรื่องค่าใช้จ่ายในการถือครองรถ (Total Cost Of Owner) จะต้องไม่สูงกว่ารถสันดาปในปัจจุบัน เช่น รถอีวีอยู่ที่ 900,000 บาทต่อคัน ก็ต้องต้องใกล้เคียงกับรถสันดาปปัจจุบันที่ 600,000 บาทต่อคัน เพื่อให้สามารถซื้อรถอีวีได้ในราคาถูกลง

ปัจจุบันภาษีนำเข้ารถอีวี ยังมีความแตกต่างกัน บางประเทศได้อัตรา 0% ตามข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) นำเข้าจากญี่ปุ่น 80% กรณีเป็น ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย – ญี่ปุ่น (เจเทปป้า) อัตรา 20% จากเกาหลีใต้ 40% และจากยุโรป 80% โดยมาตรการภาษีรถอีวี จะเป็นอัตราเดียวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ

ขณะที่นโยบายการใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถอีวี เชื่อว่า ผู้ประกอบการยังมีความต้องการเข้ามาลงทุน แต่ความพร้อมแต่ละรายไม่เท่ากัน ต้องพิจารณาให้รอบด้าน ส่วนการสนับสนุนให้ไทยเป็นจ้าวแห่งการผลิตรถกระบะไฟฟ้า ปัจจุบันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถกระบะอยู่แล้ว แต่ถ้าจะเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าก็ยอมรับว่าทำได้ยาก เพราะปัจจุบัน รถกระบะขนาดบรรทุก 1 ตัน เมื่อเป็นรถไฟฟ้า มีขนาดแบตเตอรี่ 200-300 กิโลกรัม หากต้องการจะสนับสนุนก็ต้องไปพิจารณารายละเอียด ความเป็นไปได้อีกครั้ง