posttoday

โควิดพันธุ์ใหม่ ออมิครอน ทุบเศรษฐกิจไทย

28 พฤศจิกายน 2564

ชมรัฐบาลไม่ประมาทโควิดพันธุ์ใหม่ ออมิครอน ทุบเศรษฐกิจไทย ห้ามไม่ให้ผู้เดินทางจาก 8 ประเทศ ในแอฟริกาเข้าไทยเป็นการตัดสินใจถูกต้องทันสถานการณ์

ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวถึง ความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดไวรัสสายพันธุ์ออมิครอนทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งตัวลงอย่างรุนแรง ราคาน้ำมันในตลาดโลกก็ทรุดตัวลงอย่างมากเช่นเดียวกัน ภาวะดังกล่าวเป็นผลจากความวิตกกังวลว่า การกลายพันธุ์ของไวรัสโควิดสายพันธุ์ออมิครอนอาจส่งผลต่อการแพร่ระบาดเช่นเดียวกับสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งอาจทำให้หลายประเทศเกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่อีกระลอกหนึ่ง ส่งผลต่อการเดินทางระหว่างประเทศ การท่องเที่ยวและกิจกรรมต่างๆที่ต้องหยุดชะงักครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง การระบาดระลอกใหม่ของเชื้อกลายพันธุ์ออมิครอนทำให้การกระเตื้องและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกและไทยอาจไม่เกิดขึ้นอย่างที่คาดการณ์ไว้เดิม ในเบื้องต้นคาดว่า มีผลกระทบบต่อเศรษฐกิจไทยและตลาดการเงินไทยอย่างจำกัดในระยะแรกหากทางการไทยสามารถควบคุมไม่ให้เข้ามาระบาดในประเทศได้และองค์การอนามัยโลกและประเทศต่างๆได้ร่วมมือกันในการจำกัดการแพร่ระบาดไวรัสสายพันธุ์ให้ให้อยู่ในเฉพาะ 6 ประเทศในอัฟริกา

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน หากการกลายพันธุ์นี้ทำให้ไวรัสสามารถเอาชนะวัคซีนป้องกันการติดเชื้อที่เรามีอยู่ขณะนี้ทั้งหมดได้ นั่นอาจ หมายถึง ความหายนะทางเศรษฐกิจและความเสี่ยงทางด้านสุขภาพในระดับสูงสุด และ ระบบการป้องกันการแพร่ระบาดในหลายประเทศต้องพังทะลายลงทันทีหากปล่อยให้มีการติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ในประเทศ หากสามารถป้องกันไม่ให้สายพันธุ์ระบาดในประเทศไทยได้ มีผลกระทบมีจำกัดมาก เพราะไทยมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าการลงทุนกับประเทศในแถบแอฟริกาใต้ 8 ประเทศน้อยมาก 8 ประเทศที่มีการแพร่ระบาดสายพันธุ์ใหม่ ประกอบไปด้วย ประเทศแอฟริกาใต้ นามิเบีย บอตสวานา ซิมบับเว เลโซโท เอสวาตีนี โมซัมบิกและมาลาวี ผลกระทบต่อไทยและภูมิเอเชียยังค่อนข้างจำกัดในระยะนี้

ทั้งนี้ โควิดพันธุ์ใหม่ กระทบตลาดการเงินจากความวิตกกังวลอันเป็นผลกระทบทางจิตวิทยาการลงทุนและผลกระทบจากการห้ามเดินทางที่ต้องการป้องกันไม่ให้สายพันธุ์ใหม่ “ออมิครอน” กลายพันธุ์ในแอฟกานิสถาน แพร่ระบาดไปยังส่วนอื่นๆของโลกเหมือน “เดลต้า” จากการกลายพันธุ์ในอินเดีย

ดร.อนุสรณ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะยังขยายตัวเป็นบวกได้ในปีนี้โดยอาจขยายตัวต่ำกว่า 0.5% และ การท่องเที่ยวในช่วงปลายปีอาจไม่คึกคักอย่างที่คาด ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศไม่เป็นไปตามเป้าหมาย