posttoday

ผวาเอาโควิดรอบใหม่ไม่อยู่ กระทบเศรษฐกิจไทยทรุด

21 พฤศจิกายน 2564

ผวาเอาโควิดรอบใหม่ไม่อยู่ กระทบเศรษฐกิจไทยทรุด เสนอเร่งอัดเงิน 7 แสนล้านบาท ช่วย 3 ล้านครัวเรือนเดือดร้อน

ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม. รังสิต กล่าวถึง เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจที่เริ่มเห็นสัญญาณการกระเตื้องขึ้นอาจได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่ของ Covid-19 โดยเฉพาะการระบาดรอบใหม่ในยุโรปและอาจทำให้หลายประเทศต้องประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้งหนึ่ง ออสเตรีย ไอร์แลนด์ สโลวาเกีย ได้ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศไปแล้วและมีแนวโน้มที่เยอรมันอาจประกาศล็อกดาวน์บางพื้นที่เช่น แคว้นบาวาเรีย จากยอดติดเชื้อรายวันสูงถึง 50,000 คน

ปัญหาดังกล่าว ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจไทย ทำให้ฟื้นตัวได้ไม่มาก อย่างที่คาดไว้ และ การเปิดประเทศของไทยอาจทำให้เกิดการระบาดระลอกสี่ได้โดยเฉพาะจากสถานบันเทิงและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย "การเปิดประเทศของไทยต้องระมัดระวังอย่างยิ่งไม่ให้เกิดการระบาดใหม่ในระลอกสี่ ความล้มเหลวในการควบคุมระบาดระลอกสี่จะทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2565 ที่ระดับ 4% อย่างที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้" ดร.อนุสรณ์ กล่าว

ดร.อนุสรณ์ กล่าวว่า ธุรกิจอุตสาหกรรมท่องเที่ยว กิจการคมนาคม ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจร้านอาหารก็จะกลับมาได้รับผลกระทบอีก นอกจากนี้ธุรกิจประกันวินาศภัยที่มีปัญหาสภาพคล่องขณะนี้ก็จะมีฐานะการเงินอ่อนแอลงอีก และอาจทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว

"ขอเตือนให้ระมัดระวัง กิจการธุรกิจประกัน สหกรณ์ออมทรัพย์ ธุรกิจโรงรับจำนำจะมีปัญหาสภาพคล่องเพิ่มเติม นอกจากนี้ขอให้เฝ้าระวัง “หนี้เสีย” ของกลุ่มพิโกไฟแนนซ์และกิจการเช่าซื้อขนาดเล็ก อย่าปล่อยให้สถานการณ์ลุกลาม จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤติการเงินได้และอาจมาเร็วกว่าคาด ต้องเร่งใช้เม็ดเงินกู้อย่างต่ำ 5-7 แสนล้านบาทเพื่อออกมาตรการรักษาระดับการจ้างงานเอาไว้" ดร.อนุสรณ์ กล่าว

ดร.อนุสรณ์ กล่าวว่า การให้เงินช่วยเหลือโดยตรงภาคธุรกิจ การลดค่าใช้จ่ายสำหรับครัวเรือนและภาคธุรกิจ รวมถึงการใช้เงินช่วยเหลือโดยตรงกับครัวเรือน หากไม่ทำจะทำให้กิจการขนาดย่อมขนาดเล็กขนาดกลางกว่า 2 แสนรายขาดสภาพคล่อง และอาจต้องปิดตัวลงอีก และกระทบครัวเรือนกว่า 3 ล้านครัวเรือนที่จะยากจนลงและมีหนี้สินล้นพ้นตัว