posttoday

ส่องโอกาสเติบโตกับเทรนด์ลงทุนเพื่อโลกที่ดีขึ้น

29 ตุลาคม 2564

Theme การลงทุนหลังจากนี้ เราจะเห็นว่า ทั่วโลกให้ความสำคัญกับเทรนด์การลงทุนเพื่อโลกที่ดีขึ้น น่าอยู่ขึ้น ด้วยการสนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น ด้านพลังงานหมุนเวียน การตั้งเป้าการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ การกระตุ้นโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นสีเขียว รวมถึงการใช้พลังงานสะอาดและยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งทำให้ต้นทุนพลังงานสะอาดลดลงอย่างมาก

คอลัมน์ ห้องความรู้บัวหลวง

อรพรรณ บัวประชุม

CFP®กองทุนบัวหลวง

กองทุนบัวหลวงก็มี กองทุน B-SIP หรือ กองทุนเปิดบัวหลวงยั่งยืน ซึ่งหลายคนอาจเข้าใจว่า กองทุนนี้ลงทุนในหุ้นหรือกองทุนที่เกี่ยวข้องหรือให้ความสำคัญแค่ในเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาธิบาล หรือ ESG (Environment, Social, Governance) เท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว กองทุน B-SIP เป็นมากกว่านั้น เรียกว่า เป็นการลงทุนที่ช่วยให้โลกดีขึ้นได้เลย

เพราะด้วยนโยบายการลงทุนที่เน้นลงทุนในบริษัททั่วโลกที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการอย่างยั่งยืน (Sustainability) โดยคำนึงถึงผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทำให้ B-SIP ซึ่งเป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุน (Fund of Funds) สามารถเลือกลงทุนในกองทุนได้อย่างหลากหลาย หากช่วงนั้นต้องการเน้นหนักเรื่องการลงทุนช่วยโลกให้ดีขึ้นด้านไหน เราก็ไปเลือกลงทุนผ่านกองทุนที่เกี่ยวข้องด้านนั้นได้ ในกองทุนของ Pictet Asset Management ที่เป็นบลจ.ชั้นนำด้านการลงทุนแบบยั่งยืน

โดยเบื้องต้น กองทุนเปิด B-SIP เน้นลงทุนใน 2 กองทุนหลัก คือ Pictet Global Environmental Opportunities ซึ่งเน้นการดูแลสิ่งแวดล้อมทุกด้าน และ Pictet Clean Energy ที่เน้นการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงาน

ตัวอย่างหุ้นที่ B-SIP เข้าลงทุน อย่างเช่น Orsted เป็นบริษัทพลังงานทดแทน ซึ่งเมื่อก่อนเป็นบริษัทผลิตพลังงานจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ปัจจุบันเป็นบริษัทเทคโนโลยีกังหันลม ผลิตพลังงานสะอาด สัญชาติเดนมาร์กที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งไม่เพียงแค่ผลิตไฟฟ้าขายในประเทศ แต่ยังรับจ้างผลิตไฟฟ้าให้อีกหลายประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีเกาะ SAMSO ซึ่งเป็นเกาะที่กว้าง 11 กิโลเมตร ยาว 26 กิโลเมตร มีประชากรประมาณ 3,700 คนที่เป็นอาสาสมัครชุมชนทดลองใช้พลังงานสะอาดทั้งเกาะให้รัฐบาล โดยตั้งเป้าปลอดฟอสซิลและถ่านหินภายในปี 2030

Beyond Meat บริษัทวิจัยพัฒนา และผลิตเนื้อสัตว์จากพืช ที่เราได้ยินกันว่า Plant-based ซึ่งกระบวนการผลิตเนื้อสัตว์จากพืช เมื่อเทียบกับการผลิตเนื้อสัตว์ปกติ การผลิต Beyond Meat ใช้น้ำ มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และใช้ที่ดินน้อยกว่าถึง 90% รวมทั้งใช้พลังงานน้อยกว่า 46% เนื่องจากการเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะสัตว์ใหญ่อย่างวัว เป็นหนึ่งในสาเหตุใหญ่ๆ ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลก ยิ่งประชากรโลกมากขึ้น ความต้องการอาหารมากขึ้น การเลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มขึ้นทำให้การถางป่าทำลายป่าก็มากขึ้น ธุรกิจผลิตเนื้อสัตว์ทางเลือกจึงเข้ามาช่วยแก้ปัญหาสภาพแวดล้อม รวมถึงความขาดแคลนอาหาร

เนื้อเทียมของ Beyond Meat ใช้เทคโนโลยีเปลี่ยนพืชและสารธรรมชาติมาแทนที่ส่วนประกอบหลักทั้ง 5 ของเนื้อสัตว์ ทำมาจาก ข้าว ถั่วเขียว ถั่วปากอ้า ไขมันได้มาจากน้ำมันมะพร้าว สีและรสชาติมาจากบีทรูทสกัด และแอปเปิ้ลสกัด ในด้านสุขภาพ Beyond Meat ระบุว่า เนื้อเสมือนนี้มีโซเดียม และไขมันอิ่มตัวน้อยกว่าเนื้อสัตว์ทั่วไป และไม่มีคอเลสเตอรอล จึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จากเทรนด์การดูแลสุขภาพ และการต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์ทำให้รายได้ของ Beyond Meat เติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งปัจจุบัน Beyond Meat ขยายธุรกิจไปทั่วโลก และมีพันธมิตรเป็นเชนร้านอาหารรายใหญ่ เช่น McDonald’s, A&W, Carl’s Jr. และ Starbucks

นี่เป็นเพียงแค่ 2 ตัวอย่างจากบริษัทที่ กองทุน B-SIP เข้าไปลงทุน ซึ่งมีความก้าวล้ำทางเทคโนโลยี ทั้งใส่ใจสิ่งแวดล้อมและพลังงานสะอาด ซึ่งเป็น Theme ที่ใหญ่ที่สุดรองจากอินเทอร์เน็ต เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงและได้รับการตอบรับในระดับสากล

ที่สำคัญ คือ เทรนด์เหล่านี้ ไม่ได้ทำให้เงินลงทุนมีโอกาสเติบโตเพียงอย่างเดียว แต่ยังทำให้ผู้ลงทุนมีส่วนช่วยให้โลกของเราดีขึ้น น่าอยู่ขึ้นด้วย

รู้ว่า B-SIP มีดีแบบนี้แล้ว ต้องลงทุนกันแล้วค่ะ