วิจัยกรุงศรีหั่นจีดีพีไทยเหลือ0.6% พิษโควิดแรงกว่าที่คิดไว้เดิม

Krungsri Research ให้เหตุผลการลดประมาณการจีดีพีของไทยล่าสุดว่า มาจากสาเหตุหลัก

1. แบบจำลองของ Krungsri Research พบว่าผู้ป่วย COVID-19 รายใหม่อาจสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ อัตราการเสียชีวิตควรกำหนดความเข้มงวดในการล็อกดาวน์

2. จำนวนผู้ป่วย COVID-19 อาจสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยตัวแปรเดลต้ามีความโดดเด่นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โมเดลกรณีพื้นฐานของ Krungsri Research บ่งชี้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในแต่ละวันจะสูงสุดในช่วงกลางเดือนกันยายน อัตราการเสียชีวิตที่ลดลงควรเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ทางการผ่อนคลายการล็อกดาวน์อย่างมากในช่วงปลายเดือนกันยายน โดยมีการฉีดวัคซีนเฉลี่ย 250,000 โดสในแต่ละวัน โดยมีประสิทธิภาพของวัคซีน 50% เทียบกับตัวแปรเดลต้า การฉีดวัคซีนจำนวนมาก ประสิทธิภาพของวัคซีน และประสิทธิผลของมาตรการล็อกดาวน์ถือเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดว่าจะสามารถควบคุมการระบาดในประเทศได้เร็วเพียงใด ที่เลวร้ายที่สุด ผู้ป่วยรายวันจะยังคงอยู่ในระดับสูงในช่วงที่เหลือของปี เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์และวัคซีนมีประสิทธิภาพต่ำ ในกรณีนี้ การล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดอาจมีผลบังคับใช้จนถึงเดือนพฤศจิกายน

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม รัฐบาลได้ขยายมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดไปยัง 29 จังหวัด จาก 13 ที่ประกาศเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศเมื่อไม่นานนี้ว่าจะผ่อนคลายมาตรการกักกันบางอย่างตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน แต่ 29 จังหวัดเหล่านี้จะยังคงอยู่ภายใต้มาตรการกักกันขั้นสูงสุด นอกจากนี้ การระบาดครั้งล่าสุดที่ครอบงำโดยตัวแปรเดลต้าทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม

มาตรการล็อกดาวน์ที่ยืดเยื้อ พื้นที่เพิ่มเติมที่กำหนดเขตวิกฤต และผลกระทบด้านลบของแรงงาน จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศไทย สำหรับธุรกิจและครัวเรือน 77% ของธุรกิจอยู่ในเขตสีแดงเข้ม และ 65% ของการจ้างงาน (คนงาน 25 ล้านคน) อยู่ใน 9 อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด (รวมถึงการก่อสร้าง อาหารและที่พัก ศิลปะและวัฒนธรรม ความบันเทิงและนันทนาการ การขนส่ง & คลังสินค้า การขายปลีก การขายส่งและการซ่อมรถยนต์ การบริหารและบริการที่เกี่ยวข้อง กิจกรรมทางวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และวิชาการ และสื่อและการสื่อสาร) หากไม่มีนโยบายสนับสนุน ธุรกิจ 27.6% จะประสบปัญหากระแสเงินสด และพนักงาน 9.3 ล้านคนอาจถูกลดค่าจ้างหรือตกงาน

ในมุมมองของ Krungsri Research ผลกระทบที่ใหญ่กว่าของการระบาดครั้งล่าสุดและผลกระทบด้านอุปทานจะลดการเติบโตของ GDP ของไทยลง -0.9 ppt ในแง่บวก เราคาดว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมมูลค่า 5 หมื่นล้านบาทในปีนี้ ซึ่งอาจเพิ่ม +0.3 ppt ให้กับการคาดการณ์การเติบโตของ GDP ของเรา โดยรวมแล้ว ผลกระทบสุทธิต่อการคาดการณ์การเติบโตของ GDP ของไทยล่าสุดของเราคือ -0.6 ppt ทำให้คาดการณ์การเติบโตทั้งปีในปี 2564 เหลือเพียง 0.6% เทียบกับ 1.2% ในการพยากรณ์ครั้งก่อน