ชงกู้เงิน2ล้านล้าน สู้โควิดเร่งเยียวยายาวถึงสิ้นปี

ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง เปิดเผยว่า ไม่แปลกใจเลยสักนิดที่ยอดการติดเชื่อโควิดของไทยสูงเกือบทะลุวันละ 2 หมื่นคน เพราะทุกฝ่ายคาดการณ์มาก่อนหน้านี้แล้วจะต้องมีการติดเชื้อมากขนาดนี้ มาจาก 3 ปัญหาสำคัญ ได้แก่

1 โควิดสายพันธุ์เดลตา จะเข้ามาแทนที่สานพันธุ์อัลฟาถึง 90% ซึ่งในขณะนี้การติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตาให้ กทม. มีสัดส่วน 60% และในต่างจังหวัดมีสัดส่วนที่ต่ำกว่านั้น แสดงให้เห็นว่ายังจะมีการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตาทำให้คนติดเชื้อได้อีกมาก

2 การฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพป้องกันสานพันธุ์เดลตาล่าช้า ซึ่งการจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ต้องฉีดให้ครบ 2 โดส ไม่น้อยกว่า 50-60% แต่ตอนนี้คนไทยได้รับการฉีดวัคซีน 1 โดส ประมาณ 20% และ 2 โดสประมาณ 7% เท่านั้น คาดว่าถึงปลายปีนี้จะมีคนไทยฉีดวัคซีน 2 โดสได้อย่างมาก 30% เท่านั้น ซึ่งยังทำให้ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิดได้ไม่ดี

3 การล็อกดาวน์ของไทยทำได้ไม่เต็มที่ ยังไม่เข้มข้น ไม่ไม่เหมือนในต่างประเทศที่ห้ามคนออกจากบ้านเลย จะให้ออกบ้านละคนวันละครั้งเดียวเพื่อไปซื้ออาหารหรือยาเท่านั้น ทำให้การล็อกดาวน์ที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้ตัวเลขติดเชื้อโควิดของไทยลดลง

"ผมคาดว่าการติดเชื้อโควิดของคนไทยจะสูงต่อเนื่องไปอีกไม่น้อยกว่า 2 เดือน ซึ่งคงสูงวันละกว่า 2 หมื่นคน หลังจากนั้นคาดว่าการติดเชื้อถึงจะเริ่มทรงตัว และคาดว่าจะคุมได้อยู่ในระดับก่อนที่มีการระบาดละลอก 3 ได้ในไตรมาสแรกของปี 2565" นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวว่า หากรัฐบาลดำเนินมาตรการเข้มข้น คาดว่าในเดือน ส.ค. และ ก.ย. นี้ตัวเลขการติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นสูงสุด และในเดือน พ.ย. นี้จะเห็นเริ่มตัวเลขการติดเชื่อทรงตัวและเริ่มลดลง ซึ่งหวังว่าตัวเลขจะทรวงตัวเป็นเวลานาน เพื่อให้รัฐบาลได้เร่งตรวจคัดกรองแยกคนติดเชื้อออกจากคนไม่ติด และเร่งระดมฉีดวัคซีนให้มากที่สุด จะทำให้การติดเชื้อลดลงได้ในไตรมาสแรกปี 2565

"ประชาชนตอนนี้ต้องอดทนอย่างเดียว รัฐบาลควรจะเร่งเยียวยา และมองไกลไปล่วงหน้า 2-3 ปี จากนี้ ต้องเยียวยาประชาชนอย่างน้อยไปถึงสิ้นปี จากมาตรการต่างทั้งแจกเงินเยียวยา การจ่ายเงิน ม.33 ม.39 ม.40 มาตรการคนละครึ่ง ต้องมีการขยายต่อ และรัฐบาลต้องคิดถึงเรื่องการซื้อวัคซีนเพิ่มเพื่อฉีดเป็นเข็ม 3 หรือ ฉีดให้ประชาชนทุกปี ดังนั้นรัฐบาลอาจจะมีความจำเป็นต้องกู้เงินอีก 1-2 ล้านล้านบาท เพื่อดำเนินการเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยืดเยื้อไม่จบได้เร็วๆ แน่นอน เพราะโรคโควิดจะอยู่กับโลกและคนไทยตลอดไปเหมือนโรคไข้หวัดใหญ่ และเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ก็ใช้หมดแล้ว ส่วนเงินกู้เพิ่ม 5 แสนล้านบาทก็ไม่เพียงพอ" นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวว่า รัฐบาลต้องเร่งระดมฉีดวัคซีนให้กับพนักงานในโรงงานที่มีการติดจำนวนมาก เพราะหากโรงงานติดเชื้อจนไม่สามารถผลิตได้ จะกระทบกับการส่งออกของไทยที่คาดว่าปีนี้จะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 10% เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย เพราะมีมูลค่าสัดส่วนถึง 50-60% ของจีดีพี หากการส่งออกได้รับกระทบเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบตามไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้