posttoday

ธนาคารกรุงเทพ แจ้งพนักงาน 2 ราย ติดเชื้อโรคโควิด

09 เมษายน 2564

ธนาคารกรุงเทพ แจ้งพนักงาน 2 ราย ติดเชื้อโรคโควิด ที่สำนักงานใหญ่ และ สาขาบิ๊กซี ศรีนครินทร์

ธนาคารกรุงเทพ แจ้ง รายละเอียดว่า มีดังนี้

1. พนักงาน จำนวน 1 ราย ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ที่ฝ่ายทุนธนกิจ อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ชั้น 14 ซึ่งไม่ใช่หน่วยงานที่ให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไป โดยได้รับทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันที่ 8 เมษายน 2564

จากการซักถามข้อมูล อาการ และประวัติการเดินทาง พนักงานรายดังกล่าวได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2564 ได้เดินทางไปพบเพื่อนซึ่งเป็นบุคคลภายนอกธนาคารที่บ้านย่านบางนา วันที่ 5 เมษายน 2564 ได้เข้ามาปฏิบัติงานตามปกติที่ฝ่ายทุนธนกิจ อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ชั้น 14 โดยไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด กระทั่งวันที่ 7 เมษายน 2564 ซึ่งเป็นวันที่ได้ลาหยุดพักผ่อน ได้รับแจ้งจากเพื่อนที่ได้เดินทางไปพบที่บ้าน (เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2564) ว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 ตนจึงได้เดินทางไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาล โดยได้รับยืนยันผลเป็นบวก-ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในวันที่ 8 เมษายน 2564 ซึ่งขณะนี้ได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยมีอาการไอเล็กน้อย และปวดเมื่อยตามตัว แต่ไม่ปรากฏอาการป่วยรุนแรงประการใด

ธนาคารได้ดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดและความปลอดภัยของพนักงานตามข้อปฏิบัติของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ดังนี้

1.) ปิดพื้นที่ชั่วคราว ฝ่ายทุนธนกิจ อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ชั้น 14 เพื่อทำความสะอาดและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อตามมาตรการปฏิบัติกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเรียบร้อยแล้ว

2.) ให้พนักงานทุกคนที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับพนักงานผู้ติดเชื้อดังกล่าว เข้ารับการตรวจหาเชื้อทันที โดยอยู่ระหว่างรอผลตรวจ และทำการกักตัวเองในที่พักอาศัย (Self-Quarantine at Home) โดยทันทีตามระยะเวลามาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข3.) สำหรับลูกค้า จำนวน 1 ราย ที่รับการบริการจากพนักงานที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับพนักงานผู้ติดเชื้อดังกล่าว ธนาคารได้แจ้งให้ลูกค้าทราบ เพื่อพิจารณาเข้ารับการตรวจหาเชื้อจากโรงพยาบาลหรือกักตัวเองเพื่อสังเกตอาการตามระยะเวลามาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ ในวันที่ 5 เมษายน 2564 พนักงานรายดังกล่าวไม่ได้พบปะและให้บริการลูกค้า ในฝ่ายทุนธนกิจ ที่รับผิดชอบแต่อย่างใด

2. พนักงาน จำนวน 1 ราย ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ที่สาขาบิ๊กซี ศรีนครินทร์ โดยได้รับทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันนี้ (9 เมษายน 2564)

พนักงานรายดังกล่าวได้ให้ข้อมูล อาการ และประวัติการเดินทางว่า ในวันที่ 4 เมษายน 2564 ภายหลังจากเลิกงานได้พบปะและร่วมรับประทานอาหารกับเพื่อนซึ่งเป็นบุคคลภายนอกธนาคาร ที่บ้านของตน วันต่อมา (5 เมษายน 2564) เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ ได้พักอาศัยอยู่บ้านทั้งวันโดยไม่ได้เดินทางออกไปยังสถานที่ใด วันที่ 6-7 เมษายน 2564 ได้เข้ามาปฏิบัติงานตามปกติที่สาขาบิ๊กซีศรีนครินทร์ โดยไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด และได้รับแจ้งจากเพื่อนที่ได้ไปรับประทานอาหารร่วมกัน (เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2564) ว่าติดเชื้อโรคโควิด–19 ตนจึงได้เดินทางไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาล พร้อมกักตัวเองในที่พักอาศัย (Self-Quarantine at Home) ทันที วันที่ 8 เมษายน 2564 โทรสอบถามผลจากโรงพยาบาล ผลเป็นลบ-ไม่ติดเชื้อโรคโควิด-19 กระทั่งได้รับแจ้งผลอีกครั้งในช่วงระหว่างการกักตัวต่อเนื่อง โดยยืนยันผลเป็นบวก-ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในวันที่ 9 เมษายน 2564 ซึ่งขณะนี้ได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และไม่ปรากฏอาการป่วยรุนแรงแต่ประการใด

สำหรับกรณีนี้ ธนาคารได้ดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดตามมาตรฐานข้อปฏิบัติของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ดังนี้

1.) ปิดทำการสาขาบิ๊กซีศรีนครินทร์ ชั่วคราว เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 10-12 เมษายน 2564 เพื่อทำความสะอาดและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ ตามมาตรการปฏิบัติกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถใช้บริการได้ที่สาขาใกล้เคียง ได้แก่ สาขาโลตัสศรีนครินทร์

2.) ให้พนักงานทุกคนที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับพนักงานผู้ติดเชื้อดังกล่าวเข้ารับการตรวจหาเชื้อจากโรงพยาบาล และทำการกักตัวเองในที่พักอาศัย (Self-Quarantine at Home) โดยทันทีตามระยะเวลามาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข

3.) สำหรับลูกค้าที่รับการบริการ ณ สาขาบิ๊กซีศรีนครินทร์ ในช่วงวันที่ 6–7 เมษายน 2564 ธนาคารได้ดำเนินการตามขั้นตอนในการแจ้งให้ลูกค้าทราบ เพื่อพิจารณากักตัวสังเกตอาการตามระยะเวลามาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข หรือเข้ารับการตรวจหาเชื้อจากโรงพยาบาล

ธนาคารมีความห่วงใยในสวัสดิภาพและความปลอดภัยของลูกค้า พนักงาน ครอบครัว และประชาชนเป็นสำคัญ โดยได้ปฏิบัติตามมาตรฐานสุขอนามัยของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อร่วมป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการให้บริการลูกค้าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มีการเว้นระยะห่าง มีฉากกั้น และขอความร่วมมือให้พนักงานปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างสม่ำเสมอ โดยสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือ เพื่อช่วยให้สังคมโดยรวมปลอดภัย ทั้งนี้ เพื่อเป็น ‘เพื่อนคู่คิด’ ที่พร้อมเคียงข้างเพื่อก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน