posttoday

ปรับเกณฑ์ค่ายาบรรเทาอาการข้อเสื่อม

29 มีนาคม 2564

ปรับเกณฑ์ค่ายาบรรเทาอาการข้อเสื่อม ให้ผู้ป่วยเข้าถึงง่ายได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ดีเดย์ 19 เม.ย. 64

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 มีจำนวนผู้ป่วยที่ใช้สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการที่ได้รับยากลูโคซามีนซัลเฟต (glucosamine) จำนวน 39,560 ราย ผลการเบิกจ่ายค่ายาดังกล่าว เป็นจำนวนเงินกว่า 101.4 ล้านบาท ประกอบกับหลักเกณฑ์การเบิกค่ายาบรรเทาอาการข้อเสื่อมที่ออกฤทธิ์ช้า และกลุ่มยาฉีดเข้าข้อบรรเทาอาการข้อเสื่อม ประกาศใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 นอกจากนี้ ราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย ได้ทำการศึกษาวิจัยข้อมูลผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม มีผลการศึกษาพบว่าปัจจุบันผู้ป่วยมีอายุเฉลี่ยลดลง อีกทั้งการได้รับยากลูโคซามีนซัลเฟตต้องได้รับยาในขนาด 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลานาน 3 ปี จะช่วยลดอาการปวดและช่วยลดการแคบของข้อได้ดีกว่าการใช้ยาในระยะสั้น กรมบัญชีกลางจึงร่วมกับราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย และชมรมศัลยแพทย์ข้อสะโพกข้อเข่าแห่งประเทศไทย พิจารณาทบทวนและปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกค่ายาบรรเทาอาการข้อเสื่อมที่ออกฤทธิ์ช้า และกลุ่มยาฉีดเข้าข้อบรรเทาอาการข้อเสื่อม ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2564 เป็นต้นไป โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

1. การเบิกจ่ายค่ายากลูโคซามีนซัลเฟต ให้เป็นไปตามแนวทางกำกับการเบิกจ่ายค่ายากลูโคซามีนซัลเฟต โดยให้ใช้ยากลุ่มนี้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมแบบปฐมภูมิ (ผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมที่มีผล X-ray ตั้งแต่ Kellgren and Lawrence grade 1 - 3 ) เท่านั้น โดยการสั่งใช้ยาต้องไม่เกินครั้งละ 12 สัปดาห์

2. การเบิกจ่ายค่ายาคอนดรอยตินซัลเฟต ไดอะเซอเรน และกลุ่มยาฉีดเข้าข้อบรรเทาอาการข้อเสื่อม ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเบิกค่ายานอกบัญชียาหลักแห่งชาติในหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0422.2/ว 111 ลงวันที่ 24 กันยายน 2555

3. การเบิกจ่ายค่ายาบรรเทาอาการข้อเสื่อมตามข้อ 1 และ 2 ให้เบิกจ่ายในระบบเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น ผู้มีสิทธิไม่สามารถนำใบเสร็จรับเงิน มายื่นเบิกค่ายากับส่วนราชการต้นสังกัดได้ทุกกรณี

ปรับเกณฑ์ค่ายาบรรเทาอาการข้อเสื่อม

“การปรับปรุงหลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าว มีความมุ่งหวังให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาเพื่อทำการรักษาโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ส่งผลให้การควบคุมโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยในการเดินทางมารับยา อีกทั้งจะทำให้กรมบัญชีกลางมีฐานข้อมูลสำหรับตรวจสอบและประเมินคุณภาพในการรักษาร่วมกับราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทยต่อไป ทั้งนี้ สถานพยาบาล ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ที่ กค 0416.2/ว 167 ลงวันที่ 26 มีนาคม 2564 หรือโทรสอบถามที่ Call Center กรมบัญชีกลาง หมายเลข 02 270 6400 ในวัน เวลาราชการ” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว