หุ้น,น้ำมัน,ทองคำสหรัฐปิดร่วงแรง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,814.26 จุด ลดลง 177.26 จุดหรือ -0.57%, ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,768.25 จุด ลดลง 27.29 จุด หรือ -0.72% และดัชนี แนสแดค ปิดที่ 12,998.50 จุด ลดลง 114.14 จุด หรือ -0.87%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันที่ 15 ม.ค. ตลาดถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐลดลงในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้ชะลอตัวลงในช่วงสิ้นปี 2563

โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกลดลง 0.7% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 หลังจากลดลง 1.4% ในเดือนพ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า ยอดค้าปลีกจะทรงตัวในเดือนธ.ค. โดยการร่วงลงของยอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการที่ภาคครัวเรือนมีรายได้ลดลง เนื่องจากชาวอเมริกันจำนวนมากประสบภาวะตกงาน

ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ดิ่งลง 1.9% ในเดือนธ.ค. หลังจากลดลง 1.1% ในเดือนพ.ย.

ด้าน สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 1.21 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 52.36 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 1.32 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 55.10 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง ถูกกดดันจากแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลง ขณะที่มีการล็อกดาวน์ในประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวด ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 21.5 ดอลลาร์ หรือ 1.16% ปิดที่ 1,829.94 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์