posttoday

คลังยังมึนแก้ปัญหาภาษีบุหรี่

22 ธันวาคม 2563

คลัง แบ่งรับแบ่งสู้ จ่ายเงินชดเชยโควตา พร้อมแก้ปัญหาภาษีบุหรี่

ภาคีชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทยนำโดยตัวแทนชาวไร่ยาสูบ 3 สายพันธุ์จากเชียงใหม่ เชียงราย เพชรบูรณ์ และร้อยเอ็ด เข้าพบ รมว. คลัง ย้ำขอให้ช่วยเหลือชาวไร่จ่ายเงินชดเชยโควตาและแก้ปัญหาภาษีระยะยาวโดยด่วน ด้าน รมว อาคม รับทราบปัญหา พร้อมกำชับสรรพสามิตและ ยสท. เร่งช่วยเหลือเต็มที่

นายสงกรานต์ ภักดีจิตร นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์ จ. เพชรบูรณ์ ในฐานะผู้แทนภาคีชาวไร่ยาสูบ ได้นำตัวแทนชาวไร่ยาสูบจากภาคเหนือและอีสานได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย เพชรบูรณ์ และร้อยเอ็ด เข้าพบนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง พร้อมด้วยนายจักรัตน์ พั้วช่วยและนางสาวพิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เพื่อขอให้เร่งรัดหาทางช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่ยาสูบที่ได้รับผลกระทบจากการลดโควตาปลูกยาสูบของการยาสูบฯ ถึง 50% มา 3 ปีติดต่อกัน รวมทั้งติดตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อได้แก่

1. ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษี 40% ออกไปก่อนจนกว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น

2. ให้ชาวไร่มีส่วนในการศึกษาเรื่องพืชทดแทนที่เหมาะสม และที่สำคัญที่สุดคือ

3. เร่งเรื่องการจ่ายเงินชดเชยให้กับชาวไร่ยาสูบให้เร็วที่สุด

“ท่าน รมว. รับปากเรื่องเงินชดเชยของชาวไร่ยาสูบว่าท่านจะทำให้ดีที่สุด ทำให้พวกเรามีความหวังอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลประกาศจะช่วยเหลือแต่กรมสรรพสามิตกลับบอกว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้สั่งชะลอการจ่ายเงินทดแทน ทั้งที่ใช้วงเงินเพียงแค่ 160 ล้านบาทที่จะสามารถช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบได้ 15,000 ครอบครัว เทียบไม่ได้กับพืชอื่นที่มีการช่วยเหลือนับพันล้านบาทก่อนหน้านี้”ด้านนายสัน หารสุโพธิ์ ประธานเครือข่ายชาวไร่ยาสูบภาคอีสาน 5 จังหวัดกล่าวว่า “ที่ผ่านมาชาวไร่ยาสูบเดือดร้อนมาก เพราะเงินชดเชยก็ยังไม่ได้รับซะที แผนภาษีระยะยาวก็ยังไม่เห็น มีแต่การประกาศเลื่อนภาษีออกไปปีต่อปีเท่านั้น และข้าวโพดกับมันฝรั่งที่กรมสรรพสามิตเสนอให้เป็นพืชทดแทนก็ไม่ตอบโจทย์ชาวไร่เลย ซึ่งการที่ท่าน รมว. มารับฟังปัญหาความเดือดร้อนของพวกเรา ทำให้พวกเราชาวไร่ยาสูบทั่วประเทศมีความหวังว่าจะได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมจากรัฐบาล”

ในที่ประชุม ชาวไร่ได้ชี้แจงความเดือดร้อนจากการโดนตัดโควตารับซื้อใบยาถึง 3 ปีติดต่อกันซึ่งมีสาเหตุมาจากภาษีบุหรี่ที่สูงเกินไป อีกทั้งยังกังวลเรื่องพืชทดแทนที่รัฐบาลสรุปออกมาโดยไม่ได้มีการทำการศึกษาหรือขอความคิดเห็นจากชาวไร่ เพราะมันฝรั่งไม่เหมาะกับการปลูกในหลายพื้นที่ปลูกยาสูบซึ่งเป็นที่นาดินเหนียวน้ำขัง ที่ลุ่มและอากาศร้อน ส่วนพืชสวนพืชไร่อื่นๆ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นั้น รายได้ต่อไร่ก็ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของรายได้จากการปลูกยาสูบ ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ราคากิโลกรัมละ 8 บาท ไร่หนึ่งเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 700-800 กิโลกรัม เกษตรกรได้เงินไร่ละ 6,000-7,000 บาท ขณะที่ยาสูบได้ราคาเฉลี่ยประมาณกิโลกรัมละ 55 บาท ไร่หนึ่งเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 400-500 กิโลกรัม เกษตรกรได้เงินไร่ละ 25,000 บาท นอกจากนี้ ตัวแทนชาวไร่ยังได้นำผลสำรวจความคิดเห็นของชาวไร่ยาสูบ 250 คนจากสามสายพันธุ์ ซึ่งส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าไม่อยากให้มีการขึ้นภาษีจาก 20% เป็น 40% ในเดือนตุลาคม 64 เพราะจะทำให้รายได้ไม่พอเลี้ยงชีพ และไม่เห็นด้วยหากจะขึ้นภาษีในระยะ 3 ปีหน้านี้เพราะเศรษฐกิจยังไม่ดี ส่วนสิ่งที่ชาวไร่ต้องการเห็นมากที่สุดคือการแก้ปัญหาภาษีบุหรี่แบบระยะยาว

นายสงกรานต์ กล่าวว่า จากการพูดคุยในที่ประชุม ท่าน รมว. บอกว่ากรมสรรพสามิตกำลังศึกษาโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ ซึ่งจะทำให้เสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ ส่วนเรื่องพืชทดแทนก็จะเร่งให้มีการประชุมเพื่อหาข้อสรุป ซึ่งพวกเราชาวไร่ยาสูบอยากขอให้นำความคิดเห็นและข้อกังวลของชาวไร่ที่คุยกันวันนี้เข้าไปประกอบการพิจารณาด้วย เราไม่อยากเห็นโครงสร้างภาษีใหม่หรือมาตรการพืชทดแทนที่ออกมา กลับมาซ้ำเติมให้พวกเราเดือดร้อนต่อไปในอนาคต