posttoday

ผลคดียุบปชป.อาจกระทบตลาดเงิน

26 พฤศจิกายน 2553

"ประสาร" ชี้ผลการตัดสินยุบพรรคประชาธิปปัตย์  สงครามเกาหลีเหนือ -ใต้   กระทบค่าเงิน  แนะนำผู้ประกอบการตั้งรับ  นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ไม่สามารถประเมินหรือส่งสัญญาณทิศทางค่าเงินบาทได้  เนื่องจากขณะนี้าค่เงินบาทมีทางไปได้ทั้งสองทางทั้งแข็งค่าและอ่อนค่า ทั้งนี้อย่าไปปักใจว่าทิศทางค่าเงินจะไปทางไหนทางหนึ่ง  และแนะนำให้ผู้ประกอบการมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้

"ประสาร" ชี้ผลการตัดสินยุบพรรคประชาธิปปัตย์  สงครามเกาหลีเหนือ -ใต้   กระทบค่าเงิน  แนะนำผู้ประกอบการตั้งรับ
 
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ไม่สามารถประเมินหรือส่งสัญญาณทิศทางค่าเงินบาทได้  เนื่องจากขณะนี้าค่เงินบาทมีทางไปได้ทั้งสองทางทั้งแข็งค่าและอ่อนค่า ทั้งนี้อย่าไปปักใจว่าทิศทางค่าเงินจะไปทางไหนทางหนึ่ง  และแนะนำให้ผู้ประกอบการมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้

อย่างไรก็ตามแม้ว่าในปีหน้ามีหลายฝ่ายจะคาดว่าจะมีแรงกดดันค่าเงินบาทน้อยลงอาจจะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่านั้น  นายประสารกล่าวว่า อย่างพึ่งไปคาดการณ์อะไรเพราะว่า ไม่ทราบว่าวันนี้พรุ่งนี้จะเป็นย่างไรไม่รู้ว่า มีทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจับภายในที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทั้งปัญหาเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้จะมีการยิงตอบโต้หรือไม่ หรือผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในวันจันทร์จะออกมาอย่างไง    การเลือกตั้งใหม่จะเป็นอย่างไหม เวลานี้มันล้อมไปด้วยปัจจัยความไม่นอน่นนอนทั้งในประเทศและต่างประเทศสิ่งที่ดีทีสุด คือการติดตามข่าวสาร และต้องการปรับตัวและปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการความเสี่ยง

นายประสารกล่าวว่าว่าขณะนี้การไหลเข้าออกของเงินทุนเริ่มที่จะเข้าสู่ภาวะสมดุล จะสังเกตุการณ์ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวสองทิศทางขึ้น-ลง  3ส.ต ซึ่งถือว่าค่าเงินบาทเริ่มที่จะนิ่ง   ซึ่งในช่วง 1-2 สัสัปดาห์ที่ผ่านมาธปท.เข้าไปแทรแซงค่าเงินน้อยมาก เนื่องจากมีนักลงทุนต้องการเงินเหรียญสหรัฐมากขึ้นทั้งผู้นำเข้าสินค้าและบริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องการไลงทุนต่างประเทศ  ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวค่อนข้างดี สอดคล้องกับเงินต่าประทเศทีไหลเข้ามาลงทุน   ในส่วนแง่ของธปท.ก็มีภาระกิจดูแและเสถียรภาพทางการการเงิน ไม่ให้ผันผวนมากเกิน โดยมีเครื่องมือที่มีความหลากหลายและผสมผสานกันที่จะดูแลค่าเงินติดตามค่าเงินให้เหมาะสมกับสถานการณ์

นายประสารกล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้ส่งกรอบเป้าหมายนโยบายเงินเฟ้อให้กับนายกรณ์ จาติวนิช รมว.คลังและคาดว่าจะนำเสนอครม.ได้เร็วๆนี้  โดยใช้หลักการประเมินการกรอบเงินเฟ้อตามกฎหมาย  3 ประการ คือ 1.การดำเนินนโยบาบการเงินให้เงินเฟ้อของประเทศพื้นฐานอยู่กรอบที่ที่ตั้งเป้าและคำนึงถึงการเติบโตเศรษฐกิจ 2.การกำหนดจะต้องไม่เป็นอุปสรรคการพื้นตัวเศรษฐกิจประเทศและ 3.ไม่เป็นภาระกระทบต่ภาคอธุรกิจและผู้บริโภค
 
ในขณะเดียวกันนายประสารได้สนับสนุนการออกหุ้นกู้100 ปีของ ปตท. ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะเป็นเครื่องมือให้มีการลงทุนระยะยาว และวางแผนการลงทุนได้ง่ายขึ้น และสามารถบริหารสภาพคล่อง ในส่วนของผู้ลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยระหว่างทาง ซึ่งอายุพันธบัตรยิ่งยาวผลตอบแทนก็ยิ่งสูง  รวมทั้งระบบการเงินมีอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ทำให้กิจการที่ต้องการเงินระยะยาวเช่นโรงไฟฟ้า การลงทุนระบบสาธณูปปโภคจะได้มีอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานเทียบเทียบ และเป็นไปได้ที่ภาครัฐอาจจะมีการออกพันธบัตรระยะาาวอย่างนี้บ้าง ในหลักการที่เป็นไปได้ที่จะนำมาเป้นเครื่องมือการบริหารนโยบายการเงินการคลังแต่ต้องดูวัตถุประสงค์ในอนาคต