posttoday

แบงก์กรุงศรีเผยเงินบาทยังแข็งค่าสุดในเอเชีย

18 ธันวาคม 2562

กรุงศรีเผยเงินบาททรงตัวหลังกนง. คงดอกเบี้ยตามคาด แต่เงินบาทยังแข็งค่าสุดในเอเชียในปีนี้

กรุงศรีเผยเงินบาททรงตัวหลังกนง. คงดอกเบี้ยตามคาด แต่เงินบาทยังแข็งค่าสุดในเอเชียในปีนี้

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีความเห็นต่อผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.25% ตามความคาดหมายของตลาด ขณะที่ค่าเงินบาทมีการซื้อขายเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแถวระดับ 30.25 ต่อดอลลาร์ภายหลังการลงมติ โดยคณะกรรมการกนง. ระบุว่าค่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวแบบสองทิศทางและสอดคล้องกับสกุลเงินในภูมิภาคมากขึ้น แต่ยังคงจับตาดูสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนและกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด นับตั้งแต่ต้นปี เงินบาทแข็งค่าขึ้นราว 7.6% และยังเป็นสกุลเงินที่แข็งค่าที่สุดในเอเชียแม้ว่าได้อ่อนค่าลงบ้างในช่วงเดือนที่ผ่านมาตาม

คณะกรรมการ กนง. กล่าวย้ำว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพจากการปรับลดลงของภาคส่งออก ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและการบริโภคภาคเอกชน การประเมินแนวโน้มการลงทุนยังคงได้รับผลกระทบจากการเลื่อนลงทุนของโครงการภาครัฐบางโครงการ อย่างไรก็ตาม กนง. มีมุมมองในเชิงบวกต่างจากแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ในด้านการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวและสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ทั้งนี้ กนง. ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2562 และ2563 มาที่ 2.5% และ 2.8% ตามลำดับ โดยประเมินว่าภาคส่งออกจะหดตัว 3.3% ในปีนี้ ก่อนที่จะฟื้นตัวและเติบโตเพียง 0.5% ในปีหน้า รวมทั้งปรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปี 2563 มาที่ 0.8% และ 0.7% ตามลำดับ

คณะกรรมการกนง. มีกำหนดการประชุมรอบถัดไปในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 ความเห็นของ กนง. ในวันนี้แสดงถึงมุมมองที่สนับสนุนนโยบายการเงินแบบผ่อนปรน ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของตลาดที่มองว่าเศรษฐกิจยังชะลอตัวต่อเนื่องแม้ว่าความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกลดลงในระดับหนึ่ง แต่กนง.ยังคงระมัดระวังความเสี่ยงของเสถียรภาพระบบการเงินที่มีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มขึ้น ขณะที่เรายังไม่มั่นใจว่าการลดดอกเบี้ยจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจได้ อย่างไรก็ตามกลุ่มงานโกล บอล มาร์เก็ตส์คาดว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ขณะที่ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ทั่วโลกกำลังเริ่มหยุดลดดอกเบี้ยในขณะนี้ แม้ว่ายังมีความเสี่ยงในด้านต่ำก็ตาม