ชาวไร่ยาสูบร้องคลัง เจอขึ้นภาษี 200% ใน3ปี

ชาวไร่ยาสูบ วอนคลังเร่งหาทางออกเลื่อนขึ้นภาษีบุหรี่ 40% ออกไปอีก 1 ปี

เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2562 ตัวแทนเกษตรกรชาวไร่ยาสูบนำโดยนายสุธี ชวชาติ ประธานภาคีเครือข่ายยาสูบแห่งประเทศไทย พร้อมตัวแทนชาวไร่ยาสูบ เดินทางมายื่นหนังสือถึง รมช.คลัง นายสันติ พร้อมพัฒน์ เพื่อขอให้กระทรวงการคลังเร่งหาข้อสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนเกษตรชาวไร่ยาสูบจากนโยบายการขึ้นภาษีบุหรี่สุดโหด 200% ภายในเวลา 3 ปี

นายสุธี เปิดเผยว่า ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบทั้ง 4 สายพันธุ์ทั้งจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมกว่า 20 คนได้เดินทางมายังกระทรวงการคลังยื่นหนังสือถึง รมช.คลัง ในฐานะผู้กำกับดูแลการยาสูบแห่งประเทศ (บสท.) ซึ่งได้รับปากกับภาคีฯ ไว้ 3 เดือนก่อนหน้านี้ว่า จะรีบดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรยาสูบให้ได้ตามข้อเรียกร้องที่ทางภาคีฯ ได้ทำหนังสือส่งให้อย่างเป็นทางการ โดยภาคีฯ ขอความเห็นใจจากกระทรวงการคลัง อยากเห็นความคืบหน้าของการพิจารณาในเรื่องนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้ชาวไร่ยาสูบที่กำลังตั้งตารอคอยความช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรมจากผู้แทนราษฎรที่อาสาเข้ามาแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร

"ทั้งนี้ชาวไร่ถูกตัดโควตาการรับซื้อใบยาสูบลง 50% จาก ยสท. มาสองปีติดกัน ได้รับความเดือดร้อนกันมาก ได้เรียกร้องให้รัฐบาลดูแลและแก้ปัญหา เข้าใจดีว่ากระทรวงการคลังคงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แต่เวลาก็ล่วงเลยมาพอสมควรและก็จะถึงกำหนดขึ้นภาษีบุหรี่ครั้งต่อไปในเดือน ต.ค. 2563 ซึ่งจะเท่ากับขึ้นภาษีบุหรี่ 200% ภายในเวลา 3 ปี ตั้งแต่ ปี 2560-2563 พวกชาวไร่จึงอยู่กันแบบหนาวๆ ร้อนๆ และอยากขอความเมตตากระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิตช่วยเร่งหาทางออกที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืนโดยเร็ว พวกเราจะได้ไม่ต้องกลับมาเรียกร้องกับท่านอีกในปีต่อไปและจะได้เดินหน้าทำมาหากินกันต่อไป” นายสุธี กล่าว

สำหรับข้อเรียกร้องของเกษตรกรชาวไร่ยาสูบ ประกอบด้วย

1. การจ่ายเงินชดเชยแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการลดโควตา

2. เลื่อนภาษี 40% ออกไปอีก 1 ปีและทบทวนอัตราภาษีสรรพสามิตให้เหมาะสม

3. ตั้งกองทุนเพื่อดูแลเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ

4. พักหนี้เกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ 3 ปีและลดดอกเบี้ยเงินกู้

“พวกเราขอความกรุณากระทรวงการคลังให้เร่งพิจารณา และทางภาคีฯ จะขอติดตามผลอีกครั้งภายในวันที่ 15 ธันวาคม นี้เพราะทางพี่น้องชาวไร่ยาสูบของพวกเราก็ร้อนใจและยังตั้งตารอฟังข่าว หลังจากที่เกษตรกรพืชอื่นๆ ทั้งข้าว ปาล์ม มันสำปะหลัง ต่างก็ได้รับความช่วยเหลือคิดเป็นมูลค่ารวมกันหลายหมื่นล้านบาทไปแล้วจากรัฐบาล” นายสุธี กล่าว