posttoday

เช็ค!ความเสี่ยงและโอกาสหุ้นไทยเดือนธ.ค.

05 ธันวาคม 2562

บล.เอเซีย พลัส คาดต่างชาติปรับพอร์ตต่อเตรียมเงินซื้อหุ้นไอพีโอยักษ์"ซาอุดิ อารามโก"

บล.เอเซีย พลัส คาดต่างชาติปรับพอร์ตต่อเตรียมเงินซื้อหุ้นไอพีโอยักษ์ "ซาอุดิ อารามโก"

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เอเซีย พลัส คาดการณ์แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเดือนธ.ค. มีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด เหตุเพราะเดือน ธ.ค.ยังอยู่ในช่วงปรับพอร์ตของเม็ดเงินต่างชาติ เพื่อเตรียมเงินซื้อหุ้นบริษัท ซาอุดิ อารามโก (Saudi Aramco) รวมถึงแรงกดดันจากการปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2562 ลงมาอยู่ที่ 9.63 แสนล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น (EPS) 92.11 บาท/หุ้น (ดูตารางประกอบ 4 เรื่องชี้ทิศหุ้นไทยเดือนธ.ค.)

เช็ค!ความเสี่ยงและโอกาสหุ้นไทยเดือนธ.ค.

ขณะที่ปี 2563 ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิ ลงมาอยู่ที่ 1 ล้านล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น (EPS)ที่ 95.71 บาท/หุ้น

ส่วนประเด็นหนุนหุ้นไทยเดือนธ.ค.จะมาจากความหวังเม็ดเงินจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่กระจุกในช่วงท้ายของปี ถือเป็นหนึ่งแรงส่งให้เกิดการซื้อหุ้นเพื่อปิดงวดบัญชีของนักลงทุนสถาบัน (วินโดว์ เดรสซิ่ง) และช่วยพยุงตลาดช่วงท้ายปี

สำหรับกลยุทธ์ลงทุนเดือน ธ.ค. 62 บล.เอเซีย พลัส ยังคงแนะนำหุ้นอิงกำลังซื้อในประเทศพื้นฐานแข็งแกร่งที่ราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาด และเกาะกระแสหุ้นที่มีโอกาสเกิดการทำวินโดว์ เดรสซิ่งของนักลงทุนสถาบันสูง คือ KKP MAJOR RS ERW และ BCH

สอดรับกับสถิติในอดีต ที่บ่งชี้ว่าช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปี หุ้นทั้ง 5 บริษัท ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยชนะตลาดฯทั้งสิ้น คือ KKP ให้ผลตอบแทน 1.4% MAJOR 2.3% RS 4.2% ERW 1.8% และ BCH 0.7%

ส่วนหุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นสูงกว่ามูลค่าพื้นฐานควรระมัดระวังในการลงทุน ได้แก่ JAS เริ่มมีฐานกำไรปกติต่ำลงจนพลิกเป็นขาดทุนปกตินับจากปี 2563 และ OSP ประสิทธิภาพทำกำไรงวด 9 เดือน ต่ำกว่าคู่แข่ง ประกอบกับแนวโน้มกำไรปกติปี 2563 เติบโตในอัตราลดลง นอกจากนี้ราคาปิดต่อกำไร(พีอี เรโช) แพงกว่า CBG และหุ้นเครื่องดื่มโลก