posttoday

"ศรีตรังโกลฟส์ "ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 444.78 ล้านหุ้น

04 ธันวาคม 2562

เล็งเข้าเทรดใน SET นำเงินที่ได้จากการระดมทุนขยายกำลังผลิต พัฒนาไอที และคืนเงินกู้ นโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 30%

เล็งเข้าเทรดใน SET นำเงินที่ได้จากการระดมทุนขยายกำลังผลิต พัฒนาไอที และคืนเงินกู้ นโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 30%

บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) ในกลุ่มบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ฉบับแรกต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.62 เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 444.78 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 31% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO และจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บล.ฟินันซ่า เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นในครั้งนี้

บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางที่ใช้ในทางการแพทย์และอุตสาหกรรมอื่น โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ถุงมือยางธรรมชาติชนิดมีแป้ง ถุงมือยางธรรมชาติชนิดไม่มีแป้ง และถุงมือยางไนไตรล์ ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตทั้งหมด 3 แห่ง ตั้งอยู่ใน จ.สงขลา จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ตรัง โดยรวมมีทั้งหมด 124 สายการผลิต และมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ 24,325 ล้านชิ้นต่อปี

วัตถุประสงค์การใช้เงินเพื่อขยายกำลังการผลิตและการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตถุงมือยาง ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างสายการผลิตเพิ่มเติมใน 2 โครงการ รวม 9,228 ล้านชิ้น/ปี รวมเงินลงทุน 3,784.36 ล้านบาท คาดวาจะเริ่มผลิตได้ภายในปี 63 และศึกษาความเป็นไปได้อีก 2 โครงการ รวม 20,740 ล้านชิ้น/ปี คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 12,140 ล้านบาทในช่วงปี 2563-2568

รวมทั้งให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อย และเพื่อการลงทุนในโครงการต่างๆ , ใช้ติดตั้งระบบ SAP ปรับเปลี่ยนระบบการทำงานและฐานข้อมูลสู่ระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) แบบสมบูรณ์เพื่อใช้ในการวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจของแต่ละส่วนงานและทั่วทั้งองค์กร รวมทั้งชำระคืนหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงิน และ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 2 ธ.ค.62 ประกอบด้วย STA ถือหุ้น 73.2% หลังเสนอขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 50.7% บริษัท รับเบอร์แลนด์โปรดักส์ (RBL) ถือหุ้น 7.8% จะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 5.4% และกลุ่มครอบครัวสินเจริญกุล ถือ 9 % จะลดลงเหลือ 6.3% หลังไอพีโอ

ผลประกอบการปี 2559-2561 มีรายได้จากการขาย 9,084.67 ล้านบาท, 11,246.91 ล้านบาท และ 10,988.60 ล้านบาท ตามลำดับ มีกำไรสุทธิ 594.91 ล้านบาท, 214.54 ล้านบาท และ 891.58 ล้านบาท ตามลำดับ

งวด 9 เดือนแรกของปี 2562 มีรายได้จากการขาย 8,856.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 7,869.04 ล้านบาท และมีกำไร 432.86 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 774.06 ล้านบาท ณ วันที่ 30 ก.ย.62 บริษัทสินทรัพย์รวม 12,785.31 ล้านบาท หนี้สินรวม 8,569.98 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้นรวม 4,215.33 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังจากการหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามข้อบังคับของบริษัท และตามกฎหมายแล้ว