posttoday

GULF ลุยทะเลเวียดนาม โครงการไฟฟ้าพลังงานลม

27 พฤศจิกายน 2562

เซ็นสัญญางานก่อสร้าง-บริการซ่อมบำรุงของโครงการพลังงานลม ขนาด 310 เมกะวัตต์ ในเวียดนาม

เซ็นสัญญางานก่อสร้าง-บริการซ่อมบำรุงของโครงการพลังงานลม ขนาด 310 เมกะวัตต์ ในเวียดนาม

 

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) แจ้งว่าตามที่บริษัทได้เข้าลงทุนใน Mekong Wind Power Joint Stock Company ผ่าน Gulf International Holding Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นทางอ้อม 95% เป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ 310 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่อำเภอ Binh Dai จังหวัด Ben Tre ในประเทศเวียดนาม นั้น เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 Mekong Wind Power Joint Stock Company ได้เข้าลงนามสัญญาต่อไปนี้

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 Mekong Wind Power Joint Stock Company ลงนามสัญญาบริการซ่อมบำรุงและจัดหาอะไหล่ระยะยาว (Offshore Long Term Program Service Agreement: LTP Agreement) กับ Siemens Gamesa Renewable Energy LLC (Siemens Gamesa) เพื่อบำรุงรักษาและจัดหาอุปกรณ์เครื่องจักรกังหันลมของ Siemens Gamesa ซึ่งเป็นเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีมาตรฐานสูงสำหรับติดตั้งในโครงการ เป็นระยะเวลา 10 ปี และสามารถต่ออายุสัญญาได้ถึง 20 ปี

ต่อมาวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 Mekong Wind Power Joint Stock Company ลงนามสัญญาจ้างออกแบบวิศวกรรม จัดหา และก่อสร้าง (Engineering, Procurement and Construction Contract: EPC Contract) กับ PowerChina HDEC- INTL Consortium ซึ่งประกอบด้วย PowerChina Huadong Engineering Corporation Limited และ PowerChina International Group Limited โดยขอบเขตของงานภายใต้สัญญาดังกล่าว จะครอบคลุมการออกแบบ จัดหาและก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมของทั้งโครงการที่มีกำลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ 310 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเลดังกล่าว แบ่งออกเป็น 8 ระยะ โดยจะเริ่มก่อสร้างเป็นระยะ ๆ หลังจากที่ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) โดยเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา Mekong Wind Power Joint Stock Company ได้เข้าลงนาม PPA กับ EVN สำหรับระยะที่ 1 กำลังการผลิตติดตั้ง 30 เมกะวัตต์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีกำหนดจะเริ่มงานก่อสร้างในเดือนพฤศจิกายน 2562 และเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2563

สำหรับระยะที่ 2-8 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ 280 เมกะวัตต์ มีกำหนดจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2564 ตามแผนงานที่กำหนด