หุ้นปิดลบ 4.97 จุด ข่าวร้ายส่งออกไทยต่ำกว่าคาด

หุ้นไทย วันที่ 21 พ.ย.62 ปิดตลาดที่ระดับ 1,591.86 จุด ลดลง 4.97 จุด (-0.31%) มูลค่าการซื้อขาย 47,152.79 ล้านบาท สำหรับการซื้อขายระหว่างวันดัชนีดิ่งลงต่ำสุดที่ 13.06 จุด

นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิถึง 3,315.36 ล้านบาท สวนทางอีก 3 กลุ่มโชว์ยอดซื้อสุทธิ ทั้งพอร์ตโบรกเกอร์ นักลงทุนต่างชาติ และรายย่อย โดยรายย่อยซื้อสุทธิ 2,322.77 ล้านบาท 

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียติดลบเช่นเดียวกับตลาดยุโรปที่ลงไปเกือบ 1% ส่วนดาวโจนส์ฟิวเจอร์ติดลบเล็กน้อย เป็นผลจากแรงกดดันเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ภายหลังจากเกิดความวิตกว่าจะไม่สามารถลงนามข้อตกลงกันได้ภายในสิ้นปี 62 นี้ อย่างไรก็ดี ยังมีเวลาจนถึงวันที่ 15 ธ.ค.ที่สหรัฐฯกำหนดปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ระหว่างนี้ก็ต้องติดตามความคืบหน้าต่อไป

นอกจากนี้ หุ้นไทยยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากตัวเลขส่งออกของไทยเดือน ต.ค.62 ที่ออกมาต่ำกว่าตลาดคาดไว้ และในทางเทคนิคดัชนีลงมาต่ำกว่า 1,590 จุด ในระหว่างวัน ทำให้เริ่มมีการมองกันว่าที่ระดับ 1,580 จะรับอยู่หรือไม่ ส่งผลให้เกิดการชะลอลงทุน พร้อมแนะติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือน พ.ย.62 ทั้งของสหรัฐฯ และยูโรโซน ซึ่งจะทยอยออกมาในวันพรุ่งนี้

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ย.) นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดคงจะยังผันผวน ขึ้นกับข้อมูลข่าวสารเรื่องการเจรจาการค้าที่จะออกมาด้วย อย่างไรก็ดี ยังเลือกสามารถลงทุนหุ้นรายตัวได้ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,580-1,595 จุด

5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,388.81 ล้านบาท ปิดที่ 4.12 บาท ลดลง 0.04 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,916.46 ล้านบาท ปิดที่ 220.00 บาท ลดลง 7.00 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,343.62 ล้านบาท ปิดที่ 75.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,684.49 ล้านบาท ปิดที่ 43.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,660.98 ล้านบาท ปิดที่ 176.00 บาท ลดลง 0.50 บาท