posttoday

บีทีเอส ไตรมาส 2/62-63 กำไร 1.22 พันล้าน โตพุ่ง 83%

15 พฤศจิกายน 2562

แรงส่งจากผลงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจขนส่งมวลชน และความสำเร็จในการปรับกลยุทธ์ของ"วีจีไอ"

แรงส่งจากผลงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจขนส่งมวลชน และความสำเร็จในการปรับกลยุทธ์ของ"วีจีไอ"

บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 2 งวดปี 62/63 ( ก.ค.-ก.ย.62) มีกำไรสุทธิ 1,227.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83% จากช่วงเดียวกันปีก่อน สำหรับงวด 6 เดือน ปี 62/63 มีกำไรสุทธิ 2,171.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

นายกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บีทีเอส กรุ๊ป เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2 ปี 2562/63 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิหลังหักภาษีจากรายการที่เกิดขึ้นเป็นประจำ จำนวน 1,131 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 36.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ปัจจัยหลักมาจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งจากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า (Operation & Maintenance หรือ O&M) ในรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวที่เพิ่งเปิดให้บริการ รวมถึงกำไรจากธุรกิจสื่อโฆษณาภายใต้การบริหารงานของบริษัท วีจีไอ (VGI)

 

ในไตรมาสนี้ ธุรกิจขนส่งมวลชนยังคงเป็นหน่วยธุรกิจหลักที่เดินหน้าสร้างรายได้และผลกำไรให้กับบีทีเอส กรุ๊ป โดยรายได้รวมจากธุรกิจขนส่งมวลชน อยู่ที่ 9,132 ล้านบาท คิดเป็น 80% ของรายได้รวมจากการดำเนินงาน ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้ค่าก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองและรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือและใต้ จำนวน 7,531 ล้านบาท

 

รวมถึงการเปิดให้บริการโครงการส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง - เคหะฯ) ทั้งสายตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 ส่งผลให้รายได้ O&M เติบโตขึ้น 414 ล้านบาท หรือ 91.5% จากปีก่อนหน้า เป็น 866 ล้านบาท

"ภาพรวมธุรกิจระบบขนส่งมวลชนของเราในครึ่งปีหลังและในอนาคตจะยังคงเติบโตแข็งแกร่ง จากการทยอยเปิดให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวสถานีใหม่ๆ และผลจากความรุดหน้าของงานก่อสร้างรถไฟฟ้า" นายกวิน กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2562 มีการเปิดให้บริการสถานีแรก (สถานี N9: สถานีห้าแยกลาดพร้าว) ของโครงการส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือ และเราคาดว่าจะเปิดให้บริการโครงการส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนืออีก 4 สถานี (ถึงสถานี N13: สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ในเดือนธันวาคม 2562 โดยเชื่อมั่นว่าการเปิดให้บริการทั้ง 5 สถานีดังกล่าวในปีงบประมาณนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารในระบบ รวมถึงช่วยเพิ่มรายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) อย่างมีนัยสำคัญ

คาดว่า โครงการส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือจะเปิดให้บริการทั้งสาย จากหมอชิตถึงคูคต (ระยะทาง 17.8 กม., 16 สถานี) ได้ภายในปี 2563 สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองนั้นคาดว่าเส้นทางหลักของทั้ง 2 โครงการดังกล่าวจะสามารถเปิดให้บริการได้ในเดือนตุลาคม ปี 2564

ในส่วนของธุรกิจสื่อโฆษณา วีจีไอ ได้สร้างสถิติรายได้และกำไรสุทธิสูงสุดในไตรมาสที่ผ่านมาเช่นกัน จากความสำเร็จในกลยุทธ์การเป็นผู้ให้บริการการตลาดแบบ Offline-to-Online (O2O) Solutions ส่งผลให้วีจีไอ มีรายได้เพิ่มขึ้น 36.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จาก 1,222 ล้านบาท เป็น 1,668 ล้านบาท (เติบโต 36.5% จากปีก่อน) และยังสามารถสร้างผลกำไรที่เติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิรายไตรมาสสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 355 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือทางด้าน synergy ภายในกลุ่มวีจีไอ