posttoday

กรมบัญชีกลางขยายเวลารับสมัครร้านค้า"ชิมช้อปใช้"

13 พฤศจิกายน 2562

กรมบัญชีกลาง ขานรับ “ชิมช้อปใช้ เฟส 3” ขยายเวลารับสมัครร้านค้า ถึง 15 ม.ค. 63 รองรับการใช้สิทธิ์กระเป๋า g-wallet 2 ได้ทุกจังหวัด

กรมบัญชีกลาง ขานรับ “ชิมช้อปใช้ เฟส 3” ขยายเวลารับสมัครร้านค้า ถึง 15 ม.ค. 63 รองรับการใช้สิทธิ์กระเป๋า g-wallet 2 ได้ทุกจังหวัด

นางสาววิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ “ชิมช้อปใช้” เฟส 3 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภคภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 2562 โดยการลงทะเบียนในวันที่ 14 - 15 พ.ย. 2562 จะเปิดวันละ 750,000 ราย แบ่งเป็น 2 รอบ ในเวลา 06.00 น. และเวลา 18.00 น. เช่นเดิม โดยจำนวนที่ยังลงทะเบียนไม่ครบจะเปิดให้ลงทะเบียนต่อในวันที่ 16 พ.ย. 2562 และจะเปิดรอบลงทะเบียนให้เฉพาะผู้ที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ในวันที่ 17 พ.ย. 2562 ประมาณ 500,000 ราย ซึ่งผู้ลงทะเบียนผ่านในวันแรกจะเริ่มใช้สิทธิในวันที่ 20 พ.ย. 2562 เป็นวันแรก

ทั้งนี้ มาตรการ ชิมช้อปใช้ เฟส 3 นี้ จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ม.ค. 2563 ซึ่งขยายระยะเวลาให้ผู้ที่ได้รับสิทธิเดิมด้วย ซึ่งผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในเฟส 1 และ 2 สามารถเริ่มใช้จ่าย g-wallet ช่อง 2 ได้ทุกจังหวัด รวมทั้งจังหวัดตามทะเบียนบ้านของตนเอง ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 2562 เป็นต้นไป

นางสาววิลาวรรณ กล่าวว่า ขณะนี้กรมบัญชีกลางได้ขยายระยะเวลารับสมัครร้านค้าออกไปถึงวันที่ 15 ม.ค. 2563 โดยร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ สามารถสมัครได้ด้วยตนเอง ณ ห้องโถงชั้น 1 กรมบัญชีกลาง และที่สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าที่จะสมัครเข้าร่วมมาตรการขอให้จัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน ชัดเจน เพื่อป้องกันมิให้มีผู้ที่เข้ามาหาผลประโยชน์จากมาตรการนี้ โดยขณะนี้มีร้านค้าสมัครเข้าร่วมมาตรการแล้วกว่า 178,603 ร้านค้า โดยร้านค้าทั้งหมดสามารถเข้าร่วมมาตรการในระยะที่ 3 ได้ต่อเนื่อง โดยไม่ต้องมาลงทะเบียนใหม่ ซึ่งผู้ที่ลงทะเบียนและได้รับสิทธิ์แล้ว สามารถจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการ ณ ร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการ ซึ่งจะมีสติ๊กเกอร์ ชิมช้อปใช้ ติดอยู่หน้าร้าน หรือค้นหาข้อมูลได้ที่แอพฯ เป๋าตัง
นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางได้โอนเงินให้กับร้านค้าแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 12 พ.ย. 62) เป็นเงินทั้งสิ้น 12,449.6 ล้านบาท แบ่งเป็น ร้านค้าที่ได้สิทธิ์จากกระเป๋า g-wallet 1 (ใช้จ่าย 1,000 บาท ในจังหวัดที่เลือกลงทะเบียน) จำนวน 11,465 ล้านบาท และร้านค้าที่ได้สิทธิ์จากกระเป๋า g-wallet 2 (เติมเงินเพื่อใช้จ่ายในจังหวัดที่ไม่ใช่จังหวัดในทะเบียนบ้าน เพื่อรับเงินคืน 15%) จำนวน 984.6 ล้านบาท หากจำแนกเป็นประเภท จะแบ่งเป็นประเภท “ชิม” เป็นเงิน 1,640.8 ล้านบาท ประเภท “ช้อป” เป็นเงิน 10,647.5 ล้านบาท และประเภท “ใช้” เป็นเงิน 161.3 ล้านบาท

โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ทีมหมอคลังในส่วนภูมิภาค ได้ลงพื้นที่ สร้างความเข้าใจให้แก่ร้านค้าอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับเรื่องภาษีและสิทธิประโยชน์จากการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet 2 โดยมีสรรพากรพื้นที่และธนาคารกรุงไทย ร่วมลงพื้นที่ด้วย ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ร้านค้าและผู้เข้าร่วมมาตรการได้เป็นอย่างดี