หุ้นปิดลบ 11.06 จุด เจรจาการค้าไม่ชัด คดีSTECกดดัน

หุ้นไทย วันที่ 13 พ.ย.62 ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,615.14 จุด ลดลง 11.06 จุด (-0.68%) มูลค่าการซื้อขาย 52,455.95 ล้านบาท

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับต่างประเทศ หลังจากเผชิญจิตวิทยาเชิงลบจากความไม่ชัดเจนการเจรจาการค้าสหรัฐฯ และจีนที่ยังต้องติดตามดูพัฒนาการต่อไปจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าน่าจะตกงกันได้ เพียงแต่อาจจะเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป

นอกจากนี้ ตลาดฯยังได้รับแรงกดดันจากหุ้นบริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนต์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ภายหลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ขี้มูลความผิด STEC และผู้บริหารระดับสูง 2 รายเข้าไปเกี่ยวข้องกับการจ่ายสินบนท่าเรือโรงไฟฟ้าขนอม

อย่างไรก็ดี คืนนี้ (13 พ.ย.ตามเวลาไทย) ให้ติดตามประเด็นการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะออกมาเป็นอย่างไร ส่วนปัจจัยในประเทศ ให้ติดตามช่วงโค้งสุดท้ายของการทยอยประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และปลายสัปดาห์ยังต้องติดตามงาน SET in the city ซึ่งน่าจะช่วยหนุนตลาดฯได้บ้าง

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ย.) นายกรภัทร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัว พร้อมให้แนวรับ 1,610-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,627-1,635 จุด

5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด

ACE มูลค่าการซื้อขาย 5,611.80 ล้านบาท ปิดที่ 4.64 บาท เพิ่มขึ้น 0.24 บาท

STEC มูลค่าการซื้อขาย 3,590.02 ล้านบาท ปิดที่ 14.40 บาท ลดลง 3.50 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,754.25 ล้านบาท ปิดที่ 79.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,712.52 ล้านบาท ปิดที่ 78.25 บาท ลดลง 1.25 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,579.44 ล้านบาท ปิดที่ 24.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท