posttoday

คลังเปิดตัวแพลตฟอร์มบนบล็อกเชนคืนภาษีจัดซื้อจัดจ้าง

13 พฤศจิกายน 2562

คลังเปิดตัว 3 ดิจิทัลแพลตฟอร์มบนบล็อกเชน ประเดิมคืนภาษีนักท่องเที่ยว

คลังเปิดตัว 3 ดิจิทัลแพลตฟอร์มบนบล็อกเชน ประเดิมคืนภาษีนักท่องเที่ยว

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า 4 หน่วยงานสังกัดกระทรวงการคลัง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกับธนาคารกรุงไทย ในการดำเนินงานโครงการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพระบบงาน นำร่อง 3 โครงการ กรมสรรพากร –กรมศุลกากร จับมือพัฒนาระบบการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยว กรมบัญชีกลาง ยกระดับระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะพัฒนาการออมผ่านพันธบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หนุนคนไทยเข้าถึงการออมได้อย่างมีประสิทธิภาพ บล็อกเชนช่วยลดขั้นตอน รวดเร็ว ปลอดภัย โปร่งใส และตรวจสอบได้

จากบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินโครงการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน นี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการ Execution โครงการใช้เทคโนโลยี Blockchain ประกอบด้วย 3 โครงการ ซึ่งจะนำกระทรวงการคลัง ไปสู่ Digital Platform อย่างเต็มรูปแบบ

โครงการแรก การคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยว (VAT Refunds for Tourists) เป็นความร่วมมือกันระหว่างกรมสรรพากร กรมศุลกากร และธนาคารกรุงไทย ในการนำระบบบล็อกเชน มาใช้ในการคืนภาษีให้กับนักท่องเที่ยว ผ่าน Mobile Application โดยในระยะที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มปีละไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน ยอดมูลค่าการซื้อสินค้าประมาณ 5 หมื่นล้านบาท และมีจำนวนนักท่องเที่ยวขอคืนภาษี เฉลี่ย 2 แสนรายต่อเดือน จากสถิติส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสูงสุด ประมาณ 70% และชาวจีนส่วนใหญ่จะไม่นิยมใช้เงินสด ซึ่งขณะนี้โครงการได้ผ่านการทดสอบอย่างเต็มรูปแบบเรียบร้อยแล้ว และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 28 พ.ย. นี้

โครงการที่สอง ระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Government Procurement : e-GP) ซึ่งประกอบด้วย 2 โครงการย่อย คือ

1) e-LG การออกหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ประกอบการในระบบ e-GP ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนและการตรวจสอบหลักประกันของผู้ประกอบการ และสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของหลักประกันที่นำมาใช้ โดยผู้ประกอบการสามารถขอ e-LG จากทุกธนาคารและผ่านระบบบล็อกเชนที่พัฒนา

2) e-Credit Confirmation โดยบล็อกเชนของ e-GP มีการรวบรวมข้อมูลประวัติของผู้ประกอบการนิติบุคคล รวมถึงระบบ Rating ของผู้ประกอบการตามผลงานในการทำงานกับภาครัฐ สามารถช่วยให้ผู้ประกอบการลดระยะเวลา และภาระของผู้ประกอบการในการจัดเตรียมเอกสาร เพื่อขอขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการและการยื่นเสนอราคา โดยจากข้อมูล ปี2562 ภาครัฐมีการจัดซื้อจัดจ้างกว่า 3.6 ล้านโครงการ วงเงินรวมกว่า1.4 ล้านล้านบาท ลดภาระให้ผู้ประกอบการกว่า 270,000 ราย เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ สร้างความโปร่งใสของระบบการจัดซื้อจัดจ้าง โดยในเดือนธ.ค. 2562 ผู้ประกอบการสามารถขอหนังสือรับรองวงเงินสินเชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ( e-Credit Confirmation ) ของธนาคารกรุงไทยผ่านระบบ e–GP ได้ทันที โดยธนาคารกรุงไทยเป็นธนาคารแห่งแรกที่สามารถให้บริการดังกล่าวได้

โครงการที่สาม การออมผ่านพันธบัตรรัฐบาล ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (DLT Scripless Bond) จะช่วยให้การออกพันธบัตรรัฐบาล การจำหน่าย รวมถึงการรับฝากหลักทรัพย์ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้ประชาชนทุกระดับชั้นสามารถเข้าถึงการออมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้เกิดความคล่องตัวทั้งในตลาดแรกและขยายตัวสู่ตลาดรองในอนาคต เสริมสร้างความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ด้วยระบบจองก่อนได้ก่อน (First Come First Serve) ในการจัดจำหน่าย และช่วยลดขั้นตอนในกระบวนการต่างๆ ให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ระบบบล็อกเชน ยังช่วยสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการจองซื้อพันธบัตร เพิ่มความสะดวกในการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนของตนเอง และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ โดยลดระยะเวลาในกระบวนการออกใบพันธบัตรทั้งหมด จากเดิม 15 วันเหลือไม่ถึง 2 วัน โดยรัฐบาลจะเริ่มออกพันธบัตรออมทรัพย์รัฐบาลผ่านระบบบล็อกเชนในช่วงเดือน พ.ค. 2563