ตลาดหุ้น 2020 ในมุมมองเซียนหุ้น"เสี่ยป๋อง"

ใครเดินในเส้นทางสาย"หุ้นไทย" อย่าถอดใจจงก้าวต่อไป สำหรับเสี่ยป๋องเห็นโอกาสลงทุนในหุ้นโรงไฟฟ้า กลุ่มการแพทย์ และโลจิสติกส์ พร้อมแนะนำสูตรการลงทุน ต้องเป็นทั้ง"วีไอ"และสาย"เทคนิค"

เรื่องโดย พูลศรี เจริญ

.............................................................

ตลาดหุ้นยามนี้ผันผวนลงทุนยาก แม้แต่นักลงทุนที่โลดแล่นอยู่ในยุทธจักรมานานยังต้องเอามือก่ายหน้าผากแทนการคีย์ออเดอร์

นับถอยหลังอีก 7 สัปดาห์ ปี 2562 ก็จะส่งไม้ต่อให้ปี 2563 แล้ว มาเตรียมแผนและกลยุทธ์การลงทุนสำหรับปีหน้ากันดีกว่า บ้างก็ว่าเป็นปีเผาจริง แต่สำหรับบางคนบอกว่า โอกาสการลงทุนของฉันมาแล้ว และประโยคหนึ่งที่ใช้ได้เสมอ คือ "ในวิกฤตย่อมมีโอกาส"

นายวัชระ แก้วสว่าง หรือ เสี่ยป๋องเซียนหุ้นพันล้าน คุณสมบัติเพิ่มเติมคือ นักลงทุนขวัญใจชาวหุ้น ที่มองเห็นโอกาสการลงทุนปี 2563 โดยเสี่ยป๋อง กล่าวในงาน StockRadars Day 2019 เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2562 ที่โรงภาพยนตร์สกาล่า ซึ่งจัดโดยสต๊อกเรดาร์ (StockRadars) ฟินเทคผู้ให้บริการระบบซื้อขายหลักทรัพย์พร้อมให้ข้อมูลวิเคราะห์ด้านการลงทุน

"ตอนนี้ผมเริ่มซื้อหุ้นบ้างแล้ว หลังจากโหรฟองสนาน จามรจันทร์ มองดวงเมืองประเทศไทย เริ่มเดินหน้าตั้งแต่เดือนต.ค.62 ถึงวันที่ 17 มี.ค 63 ดวงเมืองอยู่กับเรามาเป็นร้อยปีแล้ว ดังนั้นในช่วง 5 เดือน ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความหวัง"

นอกจากนี้ เสี่ยป๋อง คาดว่าต้นเดือนธ.ค.62 ประเทศไทยมีสัญญาณที่ดีจากสองบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ คือ มูดี้ส์ และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) อาจปรับอันดับเครดิตประเทศไทย หลังไม่ได้ปรับมาประมาณ 10 ปี และเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะไม่เกิดวิฤต แต่อาจจะขาดเสน่ห์ตรงที่ไม่มี"โกรท" หรือไม่เติบโต ปีนี้จีดีพีมีฐานที่ต่ำ ดังนั้นปี 2563 รัฐบาลน่าจะทำงานง่ายขึ้น

"วิกฤตจะเกิดจากปัจจัยต่างประเทศมากกว่าปัจจัยในประเทศ เพียงแต่ไทยไม่มีโกรทใหม่ เพราะทุกธุรกิจกำลังทรานฟอร์ม" เสี่ยป๋อง กล่าวอย่างนั้น

สำหรับหุ้นที่เสี่ยป๋องมองว่าน่าลงทุนในปี 2563 มี 3 กลุ่ม คือ โรงไฟฟ้า บริการทางการแพทย์ (เฮลท์แคร์) สำหรับบ้านเราก็คือ กลุ่มโรงพยาบาลนั่นเอง นอกจากนี้มีกลุ่มโลจิสติกส์ แต่ต้องยอมรับว่า หุ้นโรงไฟฟ้าและหุ้นโรงพยาบาลบางตัวราคาปิดต่อกำไร (พี/อี เรโช) แพง ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำให้ใช้ปัจจัยทางด้านเทคนิค หรือ การดูกราฟมาผสมผสานกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (วีไอ)

ส่วนหุ้นนอกสายตาหรือหุ้นที่เสี่ยป๋องมองว่าไม่น่าลงทุนสำหรับปีหน้า มี 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะประเภทคอนโดมิเนียม ที่ขณะนี้สินค้าล้นตลาด โดยมีเพียงคนรวยเท่านั้นที่มีกำลังซื้อ และคนกลุ่มนี้คิดเป็นเพียง 1-2 %ของประชากรทั้งประเทศ

เสี่ยป๋อง ยังบอกอีกว่า ขณะนี้เขาติดดอยหุ้นอสังหาฯตัวหนึ่ง โดยขาดทุนประมาณ 30 % แต่ก็ไม่สามารถขายออกไปได้เพราะหุ้นไม่สภาพคล่องในการซื้อขาย นอกจากหุ้นอสังหาฯแล้ว เสี่ยป๋องยังอยู่ระหว่างการประกาศขายคอนโดมิเนียม ซึ่งก็ยังขายไม่ได้เช่นกัน 

ต่อมาเป็นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่เสี่ยป๋องบอกว่าต้องติดตามว่า 3 ไตรมาสจากนี้ผลประกอบการจะเป็นอย่างไร ถ้าไม่แย่เชื่อว่านักลงทุนจะกลับมาสนใจลงทุนอีกครั้ง เพราะหุ้นแบงก์บางตัวราคาถูกน่าสอยเข้าพอร์ต 

กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มปิโตรเคมี คาดว่าไตรมาส 4 ปีนี้ และต่อเนื่องถึงไตรมาสที่ 1 ปี 2563 ผลประกอบการจะออกมาไม่ดี

สุดท้ายนี้เสี่ยป๋อง แนะนำกลยุทธ์การลงทุนว่า นักลงทุนต้องค้นพบตัวเองให้ได้ว่าจะเป็นวีไอ หรือ เป็นนักลงทุนสายเทคนิค และถ้าจะให้ดีควรเป็นทั้ง 2 แบบผสมกัน ส่วนใครที่เป็นสายวีไอ ก็อาจต้องคบเพื่อนสายเทคนิคไว้