เน็ตเบย์ ตั้งบริษัทร่วมทุนพัฒนา"บล็อกเชน"

ไตรมาส 3/62 กำไร 47.31 ล้านบาท โตต่อ 26.45 %โชว์ประสิทธิภาพ ‘ดิจิทัล แพลตฟอร์ม’ให้บริการธุรกรรมออนไลน์

นายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็ตเบย์ (NETBAY) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจให้บริการทำธุรกรรมทางออนไลน์ผ่านระบบ‘ดิจิทัล แพลตฟอร์ม’สามารถตอบสนองลูกค้าได้อย่างดี ทำให้ลูกค้ามีทางออกในการแก้ไขปัญหาที่เผชิญอยู่ 4 จุดได้แก่ เอกสารกระดาษ ภาระต้นทุน การเสียเวลาและความซับซ้อน การเชื่อมโยงในแต่ละจุดต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายมาก

นอกจากการเติบโตจากการให้บริการธุรกรรมออนไลน์บน ดิจิทัล แพลตฟอร์มแล้ว บริษัทฯ ยังได้เปิดกว้างโดยร่วมมือกับทีมสตาร์ทอัพ ที่มีดีกรีจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกที่มีชื่อเสียงทางด้าน นวัตกรรมเทคโนโลยีและมีประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศกับบริษัทข้ามชาติชั้นนำหลายปี พร้อมทั้งมีผลงานในการพัฒนาโปรดักต์ที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชน และอื่นๆอีกด้วย

การร่วมมือในครั้งนี้เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนโดยใช้ชื่อว่า บริษัท ฟินเน็ต เวนเจอร์ส จำกัด เพื่อมุ่งมั่น คิดค้น สร้างสรรค์ พัฒนา นวัตกรรม เทคโนโลยี ‘บล็อเชน’ สำหรับการค้าระหว่างประเทศ บริษัท เน็ตเบย์ ถือหุ้น 60 % และบริษัท ฟินโนเวท ถือหุ้น 40 %

การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนของสองฝ่ายนั้น จะช่วยให้เกิดประโยชน์อย่างลงตัว และเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าทุกภาคส่วนที่อยู่ในระบบ ecosystem ของ Global Trade Value Chain การค้าขายระหว่างประเทศจะได้รับความสะดวก รวดเร็ว ลดต้นทุน คล่องตัวและปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยี “บล็อกเชน” ที่นับวันบล็อกเชนจะมีบทบาทสำคัญ และได้รับการยอมรับในเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้นในเวทีการค้าระหว่างประเทศ

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/62 เน็ตเบย์ มีกำไรสุทธิ 47.31 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่อง 26.45% ส่งผลให้กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 135.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.56 %จากช่วงเดียวกันของปีก่อน