posttoday

มาสเตอร์ แอด กำไรวูบ 40 % ตลาดสื่อโฆษณาในประเทศซบเซา

07 พฤศจิกายน 2562

ไตรมาส 3 กำไรหดเหลือ 42 ล้านบาท เดินหน้าลุยตลาดต่างประเทศ ส่วนในประเทศทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การบริหารงานของแพลน บี มีเดีย 

 ไตรมาส 3 กำไรหดเหลือ 42 ล้านบาท เดินหน้าลุยตลาดต่างประเทศ ส่วนในประเทศทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การบริหารงานของแพลน บี มีเดีย 

บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO สรุปผลการดำเนินงานของบจ. ไตรมาสที่ 3 ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 41.94 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 69.91 ล้านบาท ลดลง 40% งวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 121.86 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 185.14 ล้านบาท

ในไตรมาสที่ 3 ปี 2562 ตลาดสื่อโฆษณาภายในประเทศได้รับผลกระทบจากช่วงโลว์ซีซั่น (low season) ส่งผลให้รายได้ของธุรกิจนี้เติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ผลการดำเนินงานของสื่อโฆษณาในประเทศมาเลเซียได้ถึงจุดคุ้มทุนที่กำไรสุทธิเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2559 ส่วนธุรกิจในประเทศอินโดนีเซียได้เริ่มสร้างส่วนแบ่งกำไรเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

บริษัท มาสเตอร์ แอด ระบุว่า แม้ว่าบริษัทจะได้รับอานิสงค์จากผลการดำเนินงานในต่างประเทศที่เป็นบวก อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้เผชิญกับความท้าทายจากผลประกอบการในประเทศที่ชะลอตัว ส่งผลให้กำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ลดลงมาอยู่ที่ 42 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิที่ 5.6%

นายพุน ฉง กิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MACO ผู้ครอบครองเครือข่ายสื่อโฆษณากลางแจ้งมากที่สุดในเมืองไทย เผยว่า ไตรมาส 3/2562 บริษัทมีรายได้จากผลการดำเนินงาน แบ่งเป็นรายได้จากสื่อโฆษณาในประเทศ 258 ล้านบาท จากการควบรวมงบการเงินครั้งแรกของธุรกิจให้บริการโฆษณาในต่างประเทศที่บริหารโดย VGI Global media (Malaysia) Sdn Bhd. (“VGM”) สร้างรายได้ 157 ล้านบาท และจากการรวมงบการเงินเต็มไตรมาสกับ ทรานส์ แอด กรุ๊ป ที่สร้างรายได้จากการให้บริการด้านระบบครบวงจรได้ถึง 333 ล้าน

สำหรับก้าวต่อไปของ MACO คือมุ่งเน้นสร้างความแข็งแกร่งในตลาดต่างประเทศ สำหรับสินทรัพย์สื่อภายในประเทศทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท แพลน บี มีเดีย (PlanB) ที่รับประกันส่วนแบ่งรายได้ขั้นต่ำให้กับ MACO ทำให้บริษัทสามารถรับรองผลการดำเนินงานให้มั่นคงได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในการเข้าลงทุนใน บริษัท ฮัลโล บางกอก แอล อี ดี จำกัด และการเข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ แพลน บี จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สื่อกลางแจ้งทั้งหมดของบริษัทฯ พร้อมดันให้บริษัทฯ มุ่งเน้นไปสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างเต็มตัว

จากโครงสร้างใหม่นี้ ธุรกิจในประเทศจะสามารถใช้ประโยชน์จากการเพิ่มกำลังการผลิตที่สูงสุด ซึ่งนำไปสู่โอกาสที่จะพัฒนาอัตรากำไรของบริษัทฯ ให้เพิ่มมากขึ้น จากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันบริษัทคาดว่าตลาดต่างประเทศจะเริ่มมีส่วนสำคัญในพอร์ตการขาย อย่างไรก็ตามการขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์นี้ต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2562 ในวันที่ 17 ธันวาคม 2562 นี้