จัดโปรแรงชิงเงินล้านดัน"ชิมช้อปใช้"โค้งท้าย

กรุงไทยถกคลังจัดโปรแรงดันชิมช้อบใช้ ให้ใช้เป๋าตัง 2 เติมเงินมากได้ลุ้นมาก ชิงรางวัลใหญ่ 1 ล้านบาท

รายงานจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทยจะหารือกับกระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลาง จัดกิจกรรมกระตุ้นการใช้จ่ายในโครงการชิมช้อปใช้ช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2562 ให้มีการใช้จ่ายในเป๋าตัง 2 ที่ผู้ได้สิทธิ์ต้องเติมเงินซื้่อสินค้า และรัฐบาลจ่ายเงินให้คืน 15% ส่วนที่ใช้จ่ายไม่เกิน 3 หมื่นบาทแรก และคืนเงินให้ 20% ส่วนที่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น หลังจากที่ผ่านมายังมียอดใช้จ่ายเป๋าตัง 2 น้อยเพียงหลักร้อยล้านบาท จากจำนวนเงินที่ใช้จ่ายไปทั้งหมดกว่า 1 หมื่นล้านบาท

สำหรับแนวคิดที่เตรียมเสนอให้นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง พิจารณา จะเปิดให้ผู้มีสิทธิทั้ง 13 ล้านคนที่เติมเงินใช้จ่ายผ่านเป๋าตัง 2 รวมถึงให้ร้านค้ากว่า 1 แสนแห่ง ที่รับเงินชิมช้อปใช้เป๋าตัง 2 มีสิทธิชิงโชคลุ้นรางวัล เช่น หากมีการเติมเงินใช้จ่ายเป๋าตัว 2 ทุก 1,000 บาท จะได้รับ 1 สิทธิเพื่อชิงโชค แต่หากใช้จ่ายถึง 10,000 บาทก็จะได้รับ 10 สิทธิ โดยรางวัลมีหลายรูปแบบ เช่น รางวัลใหญ่เป็นเงินสด 1 ล้านบาท หรือรางวัลเงินระดับรองๆ ลงไปเป็นต้น

“แนวทางนี้จะเสนอให้ รมว.คลัง พิจารณาก่อน ซึ่งจะมีการประชุมกันในวันที่ 6 พ.ย.นี้ วัตถุประสงค์เพื่อเป็นโปรโมชั่นกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายเงินชิมช้อปใช้เพิ่มเติม โดยจะใช้งบประมาณไม่มาก เพราะการจับรางวัลจะจับเพียงเดือนละครั้ง เป็นเวลา 2 เดือน โดยให้รางวัลทั้งในส่วนของผู้ใช้เงิน และร้านค้าที่รับเงินโครงการชิมช้อปใช้กระเป๋าสองก็จะได้รับรางวัลด้วย โดยทางธนาคารกรุงไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรม หากได้รับการเห็นชอบ จะรีบทำโดยเร็วที่สุด”

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดีขึ้นจากผลทางจิตวิทยาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะเร่งด่วนผ่านโครงการชิมช้อปใช้ระยะ 1 และ 2 แต่จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน กระทรวงการคลังก็ไม่ประมาท ได้มีการศึกษามาตรการอื่นไว้รองรับหากจำเป็นต้องนำมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง ซึ่งรวมไปถึงโครงการชิมช้อปใช้เฟส 3 ด้วย

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้คลังกำลังรณรงค์ให้คนไทยหันมาจับจ่ายผ่านโครงการชิมช้อปใช้ และเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้ลงไปสู่ชุมชนให้มากขึ้นในฤดูกาลท่องเที่ยว ส่วนโครงการชิมช้อปใช้จะมีการออกมาตรการเสริมหรือไม่ ต้องรอประเมินผลก่อนหากประสบความสำเร็จก็อาจพิจารณามาเพิ่มเติม