posttoday

"อินเตอร์ ฟาร์มา"เป้าหมายต่อไปที่ต้องพิชิต

05 พฤศจิกายน 2562

สถานีต่อไปย้ายขึ้นกระดาน SET เป้ารายได้ปีนี้โต 20 % หุ้นปิดเทรดวันแรก 9 บาท สูงกว่าราคาไอพีโอ 28.57 % 

สถานีต่อไปย้ายขึ้นกระดาน SET เป้ารายได้ปีนี้โต 20 % หุ้นปิดเทรดวันแรก 9 บาท สูงกว่าราคาไอพีโอ 28.57 %  

***********************

อินเตอร์ ฟาร์มา (IP) บริษัทจดทะเบียนน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ลงสนามเทรดวันแรก 5 พ.ย.62 สร้างสีสันให้กับตลาดไม่น้อย โดยปิดตลาดที่ 9.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท (+28.57%) จากราคาที่ออกและเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) 7.00 บาทต่อหุ้น มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 1,469.14 ล้านบาท

นอกจากนี้ มีการทำรายการขนาดใหญ่ (บิ๊กล็อต)หุ้น IP จำนวน 25.50 ล้านหุ้น รวม 12 รายการ ที่ราคาไอพีโอ คิดเป็นมูลค่ารวม 178.50 ล้านบาท

ดร.ทรงวุฒิ ศักดิ์ชลาธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา กล่าวว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในพื้นฐานและการเติบโตทางธุรกิจของบริษัทฯ ที่มีความแข็งแกร่ง นอกจากนี้ มีนักลงทุนรายใหญ่สนใจซื้อหุ้นบริษัทฯ จากผู้ถือหุ้นเดิมผ่านการทำบิ๊กล็อตในวันแรกที่หุ้นเข้าเทรด

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของ IP ดร.ทรงวุฒิ ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าภายใน 5 ปี (2562-2566) จะมีรายได้แตะระดับ 1,000 ล้านบาท และย้ายเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

ส่วนกลยุทธ์สู่เป้าพันล้าน จะเน้นขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยมีจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นประเทศหลักในการขยายตลาด จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้หลักจากในประเทศกว่า 90% ของรายได้ทั้งหมด

ปี 2562 คาดว่ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% หลังจากครึ่งปีแรกรายได้เติบโตแล้ว 32% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 316.83 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการที่บริษัทมีการขยายตลาดใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง และการขยายตลาดไปยังผู้บริโภคโดยตรงมากขึ้น จากเดิมที่ขายให้กับโรงพยาบาล คลีนิคเป็นหลัก รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่มีคู่แข่งน้อยมาก

"อินเตอร์ ฟาร์มา"เป้าหมายต่อไปที่ต้องพิชิต

นางนิสาภรณ์ ฤกษ์อร่าม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า IP เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนา คิดค้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ของผู้บริโภคในปัจจุบันที่หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพทั้งของตนเองและสัตว์เลี้ยงมากขึ้น จึงเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้เพิ่มขึ้นได้

"ที่ผ่านมา IP มีผลการดำเนินงานที่ดี และมีการเติบโตของรายได้สูงต่อเนื่องมาโดยตลอด เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ จะเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนจำนวนมากให้แก่บริษัทฯ ในการต่อยอดขยายธุรกิจ พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศให้เพิ่มขึ้น จึงเชื่อว่า IP จะเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และเป็นหนึ่งในหุ้นที่น่าจะได้รับความสนใจมากจากนักลงทุน "ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าว 

ความเห็นของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)โกลเบล็ก ในฐานะผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นไอพีโอของ IP ประเมินมูลค่าหุ้นด้วยวิธี Prospective P/E Ratio โดยอ้างอิงราคาปิดต่อกำไร (พี/อี เรโช) เฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี ของบริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ (MEGA)ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย และแบลคมอร์ (Blackmore) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นออสเตรเลียที่ 25.3 เท่า ได้ราคาเหมาะสมที่ 7.66 บาทต่อหุ้น

บล.โกลเบล็ก ประเมินว่า IP จะมีกำไรปี 2562 อยู่ที่ราว 42.8 ล้านบาท เติบโต 44% จากปี 2561 คาดการ์รายได้ 392 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปี 2561 จากการเริ่มขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสู่ร้านค้าปลีกสมัยใหม่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง

 

อย่างไรก็ตาม บล.โกลเบล็ก คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ IP อาจอ่อนตัวลงจาก 60 % สู่ 56 % เนื่องจากการนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในร้านค้าปลีกสมัยใหม่มีค่าใช้จ่ายแรกเข้าค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับการจำหน่ายผ่านช่องทางโรงพยาบาล เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการโฆษณาเพื่อสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จัก