posttoday

โหน"ชิมช้อปใช้"กระตุ้นเศรษฐกิจเหลว

04 พฤศจิกายน 2562

สาเหตุอะไรที่มาตรการ "ชิมช้อปใช้" ที่เป็นกระแสฮิตติดลมบน แต่กลับไม่สามารถแผลงฤทธิ์กระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างที่รัฐบาลฝันไว้

สาเหตุอะไรที่มาตรการ "ชิมช้อปใช้" ที่เป็นกระแสฮิตติดลมบน แต่กลับไม่สามารถแผลงฤทธิ์กระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างที่รัฐบาลฝันไว้

****************

โดย...เกียรติศักดิ์ ผิวเกลี้ยง

มาตรการ "ชิมช้อปใช้" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลถือว่าสร้างกระแสให้เศรษฐกิจไทยที่อยู่ในภาวะชะลอตัวมีความคึกคักมากขึ้น

ตั้งแต่การเปิดลงทะเบียนมาตรการ "ชิมช้อปใช้" เฟส 1 ปลายเดือน ก.ย. 2562 จำนวน 10 ล้านคน ได้รับการตอบอย่างล้นหลาม

การลงทะเบียนถูกออกแบบให้ลงทางออนไลน์ผ่านเว็บ "ชิมช้อปใช้" วันละ 1 ล้านคน เริ่มต้นตั้งหลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป จากเดิมที่คาดว่าจะมีคนมาลงทะเบียนวันละ 5 แสนคน

แต่ปรากฏว่าการลงทะเบียนเต็ม 1 ล้านคน ตั้งแต่วันแรกที่ให้เปิดจอง และแต่ละวันละใช้เวลาลงทะเบียนไม่เกิน 03.00 น. หรือ ตีสามเท่านั้น เรียกได้ว่าคนเป็นล้านอดรับอดนอนเพื่อให้ได้สิทธิ์มาตรการ "ชิมช้อปใช้"

แม้ว่า จะมีปัญหาการลงทะเบียนไม่ได้ ระบบหน่วงล่าช้า การโหลดแอปเป๋าตัง และการพิสูจน์ตัวตนจะมีปัญหาติดขัด แต่ปัญหาดังกล่าวกลับเป็นกระแสให้มาตรการ "ชิมช้อปใช้" ได้รับความสนใจมากขึ้นจนติดลมบน

สำหรับสิทธิ์จากมาตรการ "ชิมช้อปใช้" คือการได้วงเงินเป๋าตัง 1 จำนวน 1,000 บาท เพื่อท่องเที่ยวในจังหวัดที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น และ สิทธิ์เป๋าตัง 2 ด้วยการเติมเงินใส่แอปเพื่อใช้ซื้อสินค้าได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาท ได้เงินคืน 15% หรือ 4,500 บาท ในทุกจังหวัดยกเว้นจังหวัดที่ตัวเองอยู่

สำหรับร้านค้าที่ต้องมีแอปถุงเงินจากเดิมที่มีน้อย รัฐบาลก็ได้ไปชักชวนร้านชิมช้อปใช้เข้าโครงการได้กว่า 1 แสนร้านค้า เพื่อให้มีจำนวนมากพอที่คน 10 ล้านคนจะไปใช้จ่ายซื้อสินค้า

อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มมีการใช้เงินจ่ายจริง ปรากฎว่า ผู้ได้สิทธิ์ใช้แต่วงเงินในแต่ในเป๋าตัง 1 เท่านั้น แต่เป๋าตัง 2 ที่ต้องเติมเงินเอง เพื่อซื้อสินค้าปรากฎว่ามีคนใช้น้อยมาก

มาตรการชิมช้อปใช้ในเฟส 1 จำนวน 10 ล้านคน ปรากฎว่ามีการใช้จ่ายจริงประมาณ 9,000 ล้านบาท ทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นวงเงินในเป๋าตัง 1 ส่วนเป๋าตัง 2 มีคนอยู่เป็นวงเงิน 200-300 ล้านบาทเท่านั้น

เมื่อเป็นเช่นนี้ความหวังที่จะให้มาตรการ "ชิมช้อปใช้" กระตุ้นเศรษฐกิจก็ล้มเหลว เพราะการออกแบบมาตรการ "ชิมช้อปใช้" สำหรับวงเงินเป๋าตัง 1 เป็นแค่แรงจูงใจคนออกไปเที่ยวเท่านั้น ส่วนเป๋าตัง 2 ถือเป็นเม็ดเงินสำคัญที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ

เพราะหากดูเม็ดเงินจากเป๋าเงิน 1 มีจำนวน 1 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่มาก แต่ในเป๋าตัง 2 หากทุกคนใช้เงินเต็ม 3 หมื่นบาททุกคน จะมีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพิ่มเติมถึง 3 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่ทุกคนจะใช้เงินเป๋าตัง 2 หมดทุกคน จึงได้มีการคาดการณ์ไว้ว่า จะมีคนใช้เงินในเป๋าตัง 2 จำนวน 6 หมื่นล้านบาท โดยรัฐบาลเตรียมวงเงินไว้ 9,000 ล้านบาท เพื่อคืน 15% ให้กับผู้ใช้จ่าย เพียงเท่านี้ก็ทำให้กระตุ้นเศรษฐกิจขยายตัวได้เพิ่มขึ้นได้ 0.2-0.3% แล้ว

แต่ความเป็นจริงปรากฎว่า มีคนใช้เงินในเป๋า 2 เข็นไม่ขึ้น ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการ "ชิมช้อปใช้" เฟส 2 เมื่อปลายเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาเพื่อเลี้ยงกระแสมาตรการนี้ไม่ให้ตก โดยเปิดรับลงทะเบียนอีก 3 ล้านคน ให้แรงจูงใจเพิ่มในเป๋าตัง 2 ในส่วนที่ใช้เกิน 3 หมื่นบาท แต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท จะได้เงินคืน 20% หรือ 4,000 บาท

เมื่อรวมกับวงเงินที่ใช้ 3 หมื่นบาทแรก ได้เงินคืน 15% หรือ 4,500 บาท จะทำให้ได้เงินคืนสูงถึง 8,500 บาท รวมถึงมีการขยายเวลาของมาตรการ "ชิมช้อปใช้" จากสิ้นเดือน พ.ย. ไปจนถึงสิ้นเดือน ธ.ค. 2562 โดยหวังว่าแรงจูงใจที่ให้เพิ่มจะให้เป๋าตัง 2 ทำงาน

แต่ทุกอย่างอย่างเหมือนเดิม ประชาชนยังแห่ลงทะเบียนแค่ 3 วัน เต็ม 3 ล้านคน คนที่ได้สิทธิ์ยังใช้แต่เป๋าตัง 1 ไม่ใช้เป๋าตัง 2

ยอดการใช้จ่ายมาตรการ "ชิมช้อปใช้" ล่าสุด 10,667 ล้านบาท แบ่งเป็นร้านชิม 1,460 ล้านบาท ร้านช้อป 6,171 ล้านบาท ร้านใช้ 141 ล้านบาท และร้านค้าทั่วไป 2,893 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเงินในเป๋าตัง 2 หลักไม่กี่ร้อยล้านบาทเหมือนเดิม

เมื่อมาถึงทางตัน รัฐบาลไม่มีทางเลือก จึงมีการแย้มออกมาว่าจะมีมาตรการ "ชิมช้อปใช้" เฟส 3 โดยจะสรุปให้ได้ภายในเดือนนี้ ซึ่งในความเป็นจริงไม่ต้องรอถึงเดือนก็สรุปได้แล้วว่า มาตรการ "ชิมช้อปใช้" ล้มเหลวในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเป๋าเงิน 2 ไม่ทำงาน

การมีมาตรการ "ชิมช้อปใช้" เฟส 3 ก็ประเมินได้ไม่ยากว่าจะล้มเหลวอะไรไม่ต่างกับเฟส 1 และ 2 ที่เห็นและเป็นอยู่ เพราะประชาชนเกิดการเสพติดของฟรีจากรัฐบาล รวมถึงจับทางรัฐบาลได้ว่าเข้ามุมอับต้องทำทุกอย่างเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อกระเป๋าตัง 2 ไม่ทำงาน ก็หนีไม่พ้นแจกเงินเพิ่มในเป๋าตัง 1 โดยการเปิดมาตรการ "ชิมช้อปใช้" เฟส 3 4 5 6 ....

มาถึงวันนี้รัฐบาลอาจจะต้องยอมรับว่า การโหนแต่กระแสมาตรการ "ชิมช้อปใช้" อย่างเดียวใช้กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ เพราะผลที่ออกมาถือว่าคว้าน้ำเหลว ยิ่งขยายมาตรการ "ชิมช้อปใช้" ไปมากเฟสเท่าไร รัฐบาลยิ่งกระตุ้นเศรษฐกิจเหลวมากขึ้นเท่านั้น