posttoday

ปตท.สผ.งวด 9 เดือนกำไร 3.7 หมื่นล้าน พุ่ง 39 %

30 ตุลาคม 2562

ราคาน้ำมันดิบดูไบปีนี้คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 60 –65ดอลลาร์/ บาเรล ส่วน LNG ล้นโลกถึงปี 2565 - 2566

คาดราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบดูไบปี 62 เคลื่อนไหวในกรอบ 60 –65ดอลลาร์/ บาร์เรล ส่วน LNG ล้นโลกถึงปี 2565 - 2566

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP)หรือปตท.สผ. เปิดเผยว่า งวดเก้าเดือนสิ้นสุดเดือนกันยายน ปี 2562 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,185 ล้านดอลลาร์ (เทียบเท่า 3.7 หมื่นล้านบาท ) เพิ่มขึ้น 39 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน 

สำหรับไตรมาส 3/2562 มีกำไรสุทธิ 358 ล้านดอลลาร์ (เทียบเท่า 11,019 ล้านบาท) หรือคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.09 ดอลลาร์ (เทียบเท่า 2.66 บาท) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิ 315 ล้านดอลลาร์ (เทียบเท่า 10,401 ล้านบาท) หรือคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.07 ดอลลาร์ (เทียบเท่า 2.50 บาท)

ปตท.สผ. คาดการณ์ปี 2562 ทั้งปีว่าปริมาณาการขายเฉลี่ยของของบริษัทอยู่ที่ 3.45 แสนบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการเมอร์ฟี่ออยล์ ราคาก๊าซอยู่ที่ประมาณ 6.9 ดอลลาร์/ล้านบีทียู ส่วนต้นทุนปีนี้จะรักษาไว้ที่ 31 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อมราคา (อีบิตดา) อยู่ที่ 70-75%

สำหรับแนวโน้มราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบดูไบปี 2562 คาดว่าจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 60 –65ดอลลาร์ ต่อบาร์เรล ส่วนสถานการณ์ LNG ในตลาดโลกยังคงอยู่ในสภาวะล้นตลาดไปจนถึงปี 2565 - 2566 ส่งผลให้ราคา LNG คาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำ โดยตลาดคาดว่าราคา Asian Spot LNG เฉลี่ยอยู่ที่ 4.9 - 6.2 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู

นายพงศธร กล่าวว่า ผลการดำเนินงานซึ่งเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วง 9 เดือนของปีนี้ เป็นการสะท้อนความสำเร็จจากการเข้าซื้อกิจการในประเทศมาเลเซียตามแผนกลยุทธ์ ซึ่งส่งผลให้ ปตท.สผ. มีปริมาณการขายเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายปริมาณการขายเฉลี่ยของปี 2562 ซึ่งตั้งไว้ที่ 3.45 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

และเมื่อการซื้อกิจการของบริษัท พาร์เท็กซ์ โฮลดิ้ง ซึ่งมีการลงทุนหลักอยู่ในตะวันออกกลางเสร็จสิ้น จะส่งผลให้ปริมาณการขายเพิ่มสูงขึ้นอีก นอกจากนี้ การเร่งพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมต่าง ๆ ซึ่งอยู่ในระยะสำรวจในประเทศมาเลเซีย เช่น แปลงเอสเค 410 บี จะช่วยเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมและปริมาณการผลิตให้กับบริษัทในอนาคตอีกด้วย