posttoday

แห่ลงทะเบียน"ชิมช้อบใช้เฟส2"คลังมั่นใจเงินสะพัด6หมื่นล้าน

24 ตุลาคม 2562

"ชิมช้อบใช้เฟส2" คึก คลังเปิดทางให้เครือโรงแรม บริษัทรถเช่า และบริษัททัวร์ เข้าโครงการได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ

"ชิมช้อบใช้เฟส2" คึก คลังเปิดทางให้เครือโรงแรม บริษัทรถเช่า และบริษัททัวร์ เข้าโครงการได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ

นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง กล่าวว่า ในวันนี้ (24 ต.ค.) ได้เปิดให้มีการลงทะเบียนมาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 2 วันแรก รอบแรกตั้งแต่เวลา 06.00 น. จำนวน 5 แสนคน มีผู้ลงทะเบียนเต็มเวลา 07.18 น. ถือว่าได้รับความสนใจอย่างมาก โดยจะเปิดลงทะเบียนอีกรอบเวลา 18.00 น. จำนวน 5 แสนคน ซึ่งการกำหนดจำนวนผู้ลงทะเบียนมาตรการชิมช้อปใช้ ในเฟส 2 ที่จำนวน 3 ล้านคน เป็นจำนวนที่เหมาะสมแล้ว และยังไม่มีแนวคิดที่จะขยายจำนวนผู้ลงทะเบียนเพิ่ม หรือ เปิดเฟส 3

ทั้งนี้ เป้าหมายของมาตรการชิมช้อปใช้เฟส 2 คือ ต้องการกระตุ้นให้ผู้ได้สิทธิ์ใช้จ่ายเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ 2 (g-wallet2) จึงมีการให้แรงจูงใจเพิ่ม จากเดิมการใช้จ่าย 3 หมื่นบาทแรก จะได้รับเงินชดเชย 15% หรือไม่เกิน 4,500 บาท แต่ในเฟส 2 ขยายเพิ่ม โดยการใช้จ่ายในส่วนที่เกิน 3 หมื่นบาท แต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท จะได้รับเงินชดเชย 20% หรือไม่เกิน 4,000 บาท น่าจะเป็นแรงจูงใจเพียงพอ ทำให้คนมาใช้จ่ายผ่าน g-wallet 2 มากขึ้น เพราะจะได้เงินคืนถึง 8,500 บาท

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ต้องขอเวลาประเมินผลของมาตรการอีกระยะหนึ่ง เพราะได้มีการขยายเวลามาตรการจากเดิมสิ้นเดือน พ.ย. ไปถึง สิ้นเดือน ธ.ค. 2562 ถือเป็นช่วงเวลาที่มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ มาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 2 ยังได้รับความร่วมมือจากธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และ ธนาคารพาณิชย์ในการลงพื้นที่เพื่อจูงใจให้ร้านค้า และผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง มาเข้าร่วมในมาตรการมากขึ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้จ่ายผ่าน g-wallet 2 โดยเฉพาะในช่วงการท่องเที่ยวช่วงสิ้นปี

ขณะเดียวกัน ได้ขยายสิทธิให้ผู้ประกอบการโรงแรม เช่ารถ บริษัททัวร์ในธุรกิจท่องเที่ยวสามารถนำสาขาทุกแห่งที่มีอยู่เข้าร่วมในมาตรการชิมช้อปใช้เฟส 2 ได้ทั้งหมด จากเดิมที่กำหนดว่าจะต้องเลือกเพียงจังหวัดเดียว ก็จะทำให้ผู้ได้สิทธิ์มีทางเลือกในการใช้จ่ายและท่องเที่ยวมากขึ้น เช่น ผู้ประกอบการโรงแรมมีสาขาเปิดอยู่ทั่วประเทศ 13 แห่ง ก็สามารถนำสาขาที่มีอยู่ทั้งหมดเข้าร่วมมาตรการได้

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า เชื่อว่าผู้ได้สิทธิ์จะมีการใช้จ่ายเงินผ่านกระเป๋าเงินช่องที่ 2 มากขึ้น เนื่องจากมีการให้สิทธิประโยชน์มากขึ้น มีการใช้เงินชดเชยเพิ่มขึ้น 20% จะเป็นแรงจูงใจที่ดีขึ้น การเติมเงินเข้ากระเป๋า 2 ง่ายขึ้น และจำนวนร้านค้าเข้าร่วมโครงการมีมากขึ้น เปิดกว้างขึ้น สามารถจัดโปรโมชั่นร่วมการขายได้ การปรับเวลาการลงทะเบียน จะทำให้ได้กลุ่มคนทำงาน ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น รวมถึงร้านค้าที่ร่วมโครงการจะไม่ถูกตรวจสอบภาษี

ทั้งนี้ ประเมินว่าถ้าคนที่ได้สิทธิ์ตามมาตรการชิมช้อปใช้ มีการใช้จ่ายเงินในกระเป๋า 2 เฉลี่ยคนละ 5,000 บาท ก็จะทำให้มียอดใช้จ่ายสูงถึง 5 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมกับวงเงินในกระเป๋าเงินช่องที่ 1 อีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จะทำให้มีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจช่วงปลายปีถึง 6 หมื่นล้าน

สำหรับผู้ลงทะเบียนชิมช้อปใช้เฟสแรก จำนวน 9.3 แสนคน ที่ได้สิทธิ์แต่ไม่มีการใช้เงินผ่านกระเป๋าเงินช่องที่ 1 และ 2 จะถูกตัดสิทธิ์ และไม่สามารถมาลงทะเบียนในเฟส 2 ได้