posttoday

นักวิเคราะห์คาดการณ์ TACC โตแรงถึงปีหน้า

16 ตุลาคม 2562

ปรับเป้ากำไร 62 พร้อมให้เป้าราคาหุ้น 6.45-7.50 บาท สะท้อนเติบโตแข็งแกร่ง

ปรับเป้ากำไร 62 พร้อมให้เป้าราคาหุ้น 6.45-7.50 บาท สะท้อนการเติบโตแข็งแกร่ง

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้นบริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ (TACC) โดยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า(ประเทศไทย) ให้ราคาเป้าหมายที่ 7.50 บาท เนื่องจากได้ปรับประมาณการกำไรขึ้น 6- 14% ซึ่งประมาณการกำไรงวด 9 เดือนปี 62 คิดเป็นสัดส่วนถึง 83% ของประมาณการเดิม ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4/62 คาดกำไรปกติทำระดับสูงสุดใหม่ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาล หรือไฮซีชั่น ของการบริโภคในประเทศ และมีรายได้ธุรกิจลิขสิทธิ์การ์ตูนมากที่สุดของปีเช่นกัน รวมถึงจะมีงาน Theme park ทำให้มีรายได้จากการขายลิขสิทธิ์เพิ่มเติมในช่วงปลายปี

อีกทั้งปลอดภัยจากประเด็นภาษีน้ำตาล และภาษีสรรพสามิต ในรอบนี้ฝ่ายวิจัยฯบล.หยวนต้าฯ ได้ปรับประมาณการกำไรปี 62 ขึ้น 14% เป็น 160 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 74% จากงวดปีก่อน) และปรับเพิ่มกำไรปกติปี 2563 ขึ้น 6% เป็น 204 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 27.6%จากงวดปีก่อน) ทำระดับสูงสุดใหม่

โดยสิ้นไตรมาส 2/62 บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่ 386 ล้านบาท (0.64 บาท/หุ้น) ปัจจุบันอยู่ระหว่างทำการศึกษาข้อมูลเชิงลึกในหลายบริษัท เพื่อซื้อกิจการ ซึ่งต้องเป็นบริษัทที่มาช่วยหนุนกำไรได้ทันที และอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในต่างประเทศ หากสำเร็จคาดจะช่วยยกระดับฐานกำไรของ TACC ต่างไปจากเดิมอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการ นอกจากนี้อยู่ระหว่างการเจรจาจำหน่ายลิขสิทธิ์การ์ตูนให้ลูกค้ารายใหญ่ในต่างประเทศ เป็นอีกอัพไซด์ เช่นกัน

อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยบล.หยวนต้า ฯ ได้ปรับราคาเป้าหมายขึ้นอีกครั้ง ราคายังไม่สะท้อนอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 6% ซึ่งผลของการปรับประมาณการกำไรปี 62 – 63 ขึ้นส่งผลให้ราคาเป้าหมายถูกปรับขึ้น โดยปรับไปใช้ราคาเป้าหมายเป็นสิ้นไตรมาส 2/63 อิงราคาปิดต่อกำไร (พี/อี เรโช ) ที่ 25 เท่า ได้ราคาเป้าหมายที่ 7.50 บาท มีหรือปรับขึ้น 62.3% ราคาปัจจุบันซื้อขายที่พี/อี ปี 2562 – 2563 ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นอยู่ที่เพียง 17.6 และ 13.8 เท่า ตามลำดับ อีกทั้งคาดเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังอีก 0.12 บาท ( ยิลด์ 2.6%) และปี 2563 อีก 0.27 บาท/หุ้น ( ยิลด์ 5.8%) ดังนั้น คงคำแนะนำ "ซื้อ"

นักวิเคราะห์คาดการณ์ TACC โตแรงถึงปีหน้า

 

บล.โกลเบล็ก แนะนำซื้อหุ้น TACC ปรับราคาเหมาะสมปี 62 เป็น 6.45 บาท เนื่องจากปรับคาดการณ์กำไรปี 62 เพิ่มขึ้น 32.4% หรือเติบโต 129%จากปีก่อน หลังจากผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกเท่ากับ 76 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 106% จากปีก่อน) คิดเป็น 64% ของประมาณการกำไรทั้งปี 62 ที่ 119 ล้านบาทและเพื่อเป็นการสะท้อนผลประกอบการที่กลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จึงปรับประมาณการรายได้และกำไรปี 62 เพิ่มขึ้นเป็น 1,570 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 5.2%) เพิ่มขึ้น 22%จากงวดเดียวกันปีก่อน และ 157 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 32%) เพิ่มขึ้น 129% จากงวดปีก่อน

โดยมีปัจจัยเติบโต 3 ข้อหลักเติบโตตามการขยายสาขาของร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น (7-Eleven) ผลิตภัณฑ์ใหม่ได้กระแสตอบรับดี และธุรกิจ Character Business เริ่มขยายตัวแข็งแกร่ง ล่าสุดเพิ่งได้รับสิทธิ์ลายการ์ตูนของคนไทย 'หมาจ๋า' ซึ่งจะทำให้ได้ลูกค้ารายใหม่อีก 1-2 ราย

นอกจากนี้ คาดว่าผลประกอบการยังมีปัจจัยหนุนจากการขยายธุรกิจออกนอกร้าน 7-Eleven ในการจัดส่งผงเครื่องดื่มพร้อมชงให้กับร้านเครื่องดื่มชั้นนำ อาทิ กาแฟมวลชน, Jungle Café, ARABITIA และ CP Fresh Mart รวมทั้งหมดราว 500 สาขา พร้อมกับเล็งหาโอกาสขยายเข้าสู่ร้านอื่นๆ นอกจากนี้ คาดว่าผลประกอบในไตรมาส 4/62 จะทำสูงสุดของปีที่ราว 44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 367% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ และการจัดอีเว้นท์ใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้

บล.โกลเบล็ก คงคำแนะนำ "ซื้อ" ปรับราคาเหมาะสมปี 62 เพิ่มขึ้นสู่ 6.45 บาท (จากเดิม 4.90 บาท) และปรับเพิ่มประมาณกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 62 สู่ระดับ 0.26 บาท/หุ้น จากเดิมอยู่ที่ระดับ 0.20 บาท/หุ้น

นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้าเครื่องดื่มร่วมกับเซเว่น อีเลฟเว่น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และในช่วงปลายเดือนกันยายน 2562 บริษัทได้เปิดตัวสินค้าใหม่ ในโถกดเครื่องดื่มเย็นในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นประกอบด้วย น้ำฝรั่งชมพู ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ออกตามฤดูกาล เพื่อต้อนรับเทศกาลกินเจ โดยเป็นเครื่องดื่มที่มีวิตามินซีสูง

ขณะเดียวกันในส่วนของ ALL Cafe ' บริษัทได้คิดค้นและพัฒนาเครื่องดื่มตามฤดูกาล ได้แก่ "Salted Egg Series"ซึ่งเป็นเครื่องดื่มรสชาติหวานมันกลมกล่อม กลิ่นหอมไข่เค็ม มี 3 เมนู ได้แก่ ไข่เค็ม มัคคิอาโตเย็น ไข่เค็มนมสดปั่น และไข่เค็ม นมสดเย็น คาดว่ามีรสชาติถูกใจผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีการคิดค้นสินค้าใหม่เข้าทำตลาดต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดขายในเซเว่น ซึ่งหวังว่าจะช่วยผลักดันให้ผลงานปีนี้มีรายได้เติบโตตามเป้าหมาย 15%