posttoday

ก.ล.ต.ไฟเขียวนับหนึ่งไฟลิ่ง“คุณาลัย”ขายไอพีโอ 150 ล้านหุ้น

15 ตุลาคม 2562

ระดมทุนสยายปีกธุรกิจอสังหาฯ 4 ทิศรอบกรุงเทพฯ เดินหน้าซื้อที่ดินเพิ่ม

ระดมทุนสยายปีกธุรกิจอสังหาฯ 4 ทิศรอบกรุงเทพฯ เดินหน้าซื้อที่ดินเพิ่ม

นางปิยะภา จงเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท วิลล่า คุณาลัย (KUN) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ KUN ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25 % ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้

และได้ยื่นคำขอให้รับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ล่าสุดสำนักงานก.ล.ต.ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ในเร็วๆนี้

ทั้งนี้ ในระหว่างที่มีการยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่ง นั้น วิลล่า คุณาลัย ได้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงพาร์ใหม่เป็น 0.50 บาท จากเดิม 1.00 บาท จึงทำให้จำนวนหุ้นไอพีโอเพิ่มเป็น 150 ล้านหุ้น จากเดิม 75 ล้านหุ้น

ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 600 ล้านหุ้น และมีทุนที่เรียกชำระแล้ว 225 ล้านบาท ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นไอพีโอ บริษัทจะมีทุนชำระแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 300 ล้านบาท

สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปใช้เพื่อขยายธุรกิจของบริษัท โดยใช้ในการซื้อที่ดินเพิ่มเติมสำหรับพัฒนาโครงการ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการพัฒนาโครงการ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ รวมทั้งใช้เพื่อการชำระหนี้ในบางส่วน

ด้านนางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบเพื่อขาย ภายใต้แบรนด์ “คุณาลัย” โดยยึดหลักการในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ 4 ด้าน คือ ทำเลศักยภาพ (COMFORTABLE) บ้านสวยในโครงการที่อบอุ่น (APPEARANCE) ทีมงานมืออาชีพ (RELIABLE) คุณภาพสมราคา (ECONOMY) ด้วยแนวคิด “คุณาลัย สร้างพื้นที่ สร้างความสุข” ซึ่งโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่กลุ่มบริษัทฯ ดำเนินการพัฒนาจะเน้นอยู่ในพื้นที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี

ก.ล.ต.ไฟเขียวนับหนึ่งไฟลิ่ง“คุณาลัย”ขายไอพีโอ 150 ล้านหุ้น

ปัจจุบันบริษัทฯ สามารถปิดโครงการได้แล้ว 4 โครงการ และมีโครงการที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา 7 โครงการ และโครงการในอนาคต จำนวน 2 โครงการ กลุ่มบริษัทฯ ได้เริ่มเปิดขายโครงการใหม่ ได้แก่โครงการ จอย ออน 314 ซึ่งเป็นโครงการประเภทบ้านแฝด-บ้านเดี่ยว มูลค่าโครงการรวม ประมาณ 504 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา

นอกจากนี้ อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการในอนาคต จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม ประมาณ 2,172 ล้านบาท ดังนี้

1.โครงการคุณาลัย จอย 2 เป็นโครงการประเภทบ้านแฝด-บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี จะเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 3/2563 และสามารถเปิดขายได้ในช่วงไตรมาส 4/2563

2. โครงการวิลล่า วาณิช เป็นโครงการประเภทอาคารพาณิชย์ มูลค่าโครงการประมาณ 672 ล้านบาท ตั้งอยู่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี คาดว่าจะเริ่มก่อสร้าง และเปิดขายได้ในปี 2564-2565

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2559-2561) และงวด 6 เดือนแรกปี 2562 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม เท่ากับ 297.50 ล้านบาท 450.38 ล้านบาท 447.09 ล้านบาท และ 303.84 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 5.94 ล้านบาท 10.80 ล้านบาท 11.56 ล้านบาท และ 27.96 ล้านบาท ตามลำดับ

ซึ่งรายได้รวมเติบโตขึ้นจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ โดยในปี 2559 โอนกรรมสิทธิ์บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดจาก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการคุณาลัย พราว โครงการคุณาลัย คอร์ทยาร์ด และโครงการคุณาลัย ซิมโฟนี ปี 2560 ทยอยโอนกรรมสิทธิ์บ้านเพิ่มเติมจาก 3 โครงการเดิมในปี 2559 คือ โครงการทาวน์โฮม คุณาลัย บีกินส์ ที่เป็นโครงการทาวน์โฮมโครงการแรกของกลุ่มบริษัทฯ

ปี 2561 กลุ่มบริษัทฯ ยังคงทยอยรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์บ้านในโครงการต่อเนื่องทั้ง 4 โครงการต่อเนื่องจากปี 2560 และโครงการใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว คือ โครงการคุณาลัย พอลเลน

สำหรับงวด 6 เดือน 2562 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น มาจากยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นจากจำนวน 64 ยูนิต ในงวด 6 เดือน ปี 2561 เป็น 88 ยูนิต ในงวด 6 เดือน ปี 2562 จากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้ทำการเปิดขายและโอนบ้านของโครงการคุณาลัย จอย ดังนั้น จากแนวโน้มการเติบโตของบริษัทฯ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งทางธุรกิจ ที่จะนำพาไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต