posttoday

GPSC เดินหน้าปรับโครงสร้างหนี้ หลังยอดซื้อหุ้นเพิ่มทุน7.4 หมื่นล้าน หมดล็อต

10 ตุลาคม 2562

GPSC ปลื้มแผนระดมเงินเพิ่มทุน 74,000 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นควักกระเป๋าเข้าจองสิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุนหมดล็อต เร่งปรับโครงสร้างทางการเงิน เพื่อลดภาระหนี้ระยะสั้น หลังเข้าซื้อโกลว์ พลังงาน

GPSC ปลื้มแผนระดมเงินเพิ่มทุน 74,000 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นควักกระเป๋าเข้าจองสิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุนหมดล็อต เร่งปรับโครงสร้างทางการเงิน เพื่อลดภาระหนี้ระยะสั้น หลังเข้าซื้อโกลว์ พลังงาน

นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยถึงผลการเปิดจองหุ้นสามัญเพิ่มทุนมูลค่า 74,000 ล้านบาท ระหว่าง 30 กันยายน ถึง 4 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ว่าได้รับการตอบรับจากผู้ถือหุ้นเดิมในการเข้าจองสิทธิ์และชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนเป็นที่เรียบร้อยตามจำนวนที่ขายหุ้นเพิ่มทุนประมาณ 1,321 ล้านหุ้น ถือเป็นความสำเร็จในการออกหุ้นเพิ่มทุนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)

ทั้งนี้บริษัทฯได้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วของบริษัทฯ อีกจำนวน 13,214,285,670 บาท กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2562 ส่งผลให้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนชำระแล้วเปลี่ยนแปลงจากเดิม 14,983,008,000 บาท เป็น 28,197,293,670 บาท

สำหรับวงเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทฯจะนำไปปรับโครงสร้างทางการเงินเพื่อการชำระหนี้ระยะสั้น (Bridgeloan)คืนให้กับสถาบันการเงินและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ที่บริษัทฯ ใช้ในการเข้าซื้อกิจการของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW และเพื่อเป็นการรักษาระดับอัตราส่วนทางการเงินให้เทียบเคียงได้กับบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยมีหนี้สินต่อทุน (D/E) ไม่เกิน 1 เท่า ซึ่งปรับตัวลดลงจาก 3.9 เท่า ส่งผลให้โครงสร้างทางการเงินของบริษัทอยู่ในระดับที่เหมาะสม สามารถรองรับการลงทุนในโครงการปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มั่นใจว่าภายหลังการเพิ่มทุน จะส่งผลให้บริษัทฯ มีสถานะทางเงินที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโตทางธุรกิจ ทั้งในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ และการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงานที่เป็นไปตามกระแสการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานในปัจจุบันและอนาคต รวมถึงแนวทางการพัฒนาโครงการต่างๆ ที่เดินหน้าไปตามแผนงาน และการควบรวมกิจการกับ GLOW จะทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างกระแสเงินสดเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อขีดความสามารถในการจ่ายเงินปันผล สำหรับผลประกอบการที่จะเกิดขึ้นในปี 2563