posttoday

กสิกรไทยขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิ800ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

04 ตุลาคม 2562

ธนาคารกสิกรไทยขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยอดจองล้น 4.4 เท่า

ธนาคารกสิกรไทยขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยอดจองล้น 4.4 เท่า

นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ได้เสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิ มูลค่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อายุ 12 ปี โดยสามารถไถ่ถอนได้ก่อนกำหนดในปีที่ 7 (12NC7) ครบกำหนดไถ่ถอนในปี พ.ศ. 2574 มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.343 % ต่อปี ซึ่งสามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (Tier 2) ของธนาคาร เพื่อสนับสนุนการดำเนินการของธนาคารในต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุนเพื่อให้ธนาคารมีต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสมในระยะยาว

หุ้นกู้ดังกล่าวออกโดยธนาคารกสิกรไทย สาขาฮ่องกง เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ Baa3 โดย Moody’s และที่ระดับ BBB จาก Fitch Ratings และจดทะเบียนในตลาดสิงคโปร์ โดยเสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบัน ซึ่งสามารถจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว โดยสัดส่วนเป็นผู้ลงทุนจากทวีปเอเชีย 81% และจากทวีปยุโรป 19% หรือหากจำแนกตามประเภทของผู้ลงทุนจะประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 80% กองทุนบำเหน็จบำนาญ บริษัทประกัน และกองทุนความมั่นคงแห่งชาติ (Sovereign Wealth Funds) 8% ธนาคารพาณิชย์ 3% และสถาบันและองค์กรอื่น ๆ อีก 9% โดยการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ มี BNP Paribas, Citigroup, และ Standard Chartered Bank เป็น Joint Book-Runners และ Joint Lead Managers

การระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิของธนาคารกสิกรไทยครั้งนี้ประสบความสำเร็จในหลายมิติ อาทิ มียอดจองหุ้นกู้สูงถึง 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็น 4.4 เท่าของมูลค่าหุ้นกู้ที่ธนาคารเสนอขาย สะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุนต่างประเทศต่อธนาคารกสิกรไทยและเศรษฐกิจของไทย เนื่องจากเป็นหุ้นกู้ที่มีมูลค่าเสนอขายสูงสุดในรอบ 5 ปี เมื่อเทียบกับหุ้นกู้ที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ที่ออกโดยผู้ออกหุ้นกู้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับการออกเสนอขายประเภท Reg S (หุ้นกู้ที่ระดมทุนนอกสหรัฐฯ) รวมทั้งเป็นหุ้นกู้ที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ที่มีอายุยาวที่สุดในประเภท Reg S ที่ออกจากประเทศภูมิภาคเอเชีย (ไม่นับรวมประเทศญี่ปุ่น)

นอกจากนี้ ยังเป็นหุ้นกู้ธนาคารที่มีดอกเบี้ยและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเทียบพันฐบัตรรัฐบาลสหรัฐต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับหุ้นกู้ที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ที่ออกโดยผู้ออกหุ้นกู้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในรอบ 2 ปี และเป็นหุ้นธนาคารสกุลดอลลาห์สหรัฐฯ ที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ที่มีอายุหุ้นกู้แบบ 12NC7 รายแรกจากเอเชีย (ไม่นับญี่ปุ่น) ในรอบ 9 ปี และเป็นรายแรกจากประเทศไทย