posttoday

"ชิมช้อปใช้"วันที่4ทุบสถิติแห่จองเต็มล้านก่อนเช้า

26 กันยายน 2562

ลงทะเบียนมาตรการ "ชิมช้อปใช้" วันที่ 4 ร้อนแรงตีสองยอดจอง 8 แสนคน เต็มล้านก่อนสว่าง

ลงทะเบียนมาตรการ "ชิมช้อปใช้" วันที่ 4 ร้อนแรงตีสองยอดจอง 8 แสนคน เต็มล้านก่อนสว่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนเริ่มลงทะเบียนเพื่อได้สิทธิมาตรการ "ชิมช้อปใช้" ได้เงินวงเงินเที่ยว 1,000 บาท ในวันที่ 4 ตั้งแต่เริ่มวันใหม่ของวันที่ 26 ก.ย. 2562 โดยเวลาผ่านไปยังไม่ถึง 02.00 น. มีผู้สนใจเข้ามาลงทะเบียนจำนวนมากถึง 8 แสนคน และยอดเต็ม 1 ล้านคน ในช่วก่อนเวลา 05.40 น. โดยมีประชาชนสนใจลงทะเบียนพร้อมกันจำนวนมาก จนระบบมีปัญหาเปิดหน้าเพจเว็บไซต์ไม่ได้ในบางช่วง

สำหรับมาตรการ "ชิมช้อปใช้" เปิดให้ลงทะเบียนวันแรก 23 ก.ย. 2562 โดยมีการลงทะเบียนครบ 1 ล้านคน ในช่วงเวลา 13.43 น. วันที่ 24 ก.ย. 2562 เต็ม 1 ล้านคน ตั้งแต่ 08.11 น. และวันที่ 25 ก.ย. เต็ม 1 ล้านคน ตั้งแต่ 06.18 น. โดยเป้าหมายการลงทะเบียนจำนวน 10 ล้านคน วันละ 1 ล้านคน หากเป็นเช่นนี้ คาดว่าอีก 6 วัน ก็จะมีผู้มาลงทะเบียนจองสิทธิเต็ม 10 ล้านคน

ทั้งนี้จากการเปิดให้ลงทะเบียนมา 4 วัน จำนวน 4 ล้านคน ระบบได้ยืนยันผู้ได้สิทธิแล้วประมาณ 1.5 ล้านคน ซึ่งจะเริ่มใช้เงินท่องเที่ยวได้ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. นี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้เมื่อ มีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ครบ 1 ล้านคนในแต่ละวัน ระบบจะปิดรับทันที โดยไม่มีการให้เข้าชื่อรอ (waitlist) ดังนั้น ผู้ที่ประสงค์รับสิทธิ์ตามมาตรการจะต้องกลับเข้ามาลงทะเบียนใหม่ในวันถัดไป

สำหรับประชาชนเมื่อลงทะเบียนและได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ์ภายใน 3 วันทำการแล้ว จะต้องเริ่มใช้สิทธิ์ภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ได้รับ SMS

ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิ์สามารถเริ่มใช้สิทธิ์หลังได้รับ SMS 1 วัน สำหรับ G-Wallet กระเป๋า 1 ใช้ได้กับร้านขายสินค้าและบริการที่เข้าร่วมโครงการทุกประเภทในจังหวัดที่ได้เลือกไว้เมื่อลงทะเบียน และสำหรับ G-Wallet กระเป๋า 2 ใช้ได้กับร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม ร้านขายสินค้าท้องถิ่น บริการที่พัก และบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดตามทะเบียนบ้าน โดยมีเงื่อนไขแบ่งเป็น 3 กรณี ได้แก่

1) หากเริ่มใช้สิทธิ์ G-Wallet กระเป๋าที่ 1 จะสามารถใช้วงเงิน 1,000 บาท พร้อมสิทธิ์ G-Wallet กระเป๋า 2 ได้จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562

2) หากเริ่มใช้สิทธิ์เฉพาะ G-Wallet กระเป๋า 2 จะสามารถใช้สิทธิ์ G-Wallet กระเป๋า 2 ได้จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 แต่จะถูกตัดสิทธิ์ G-Wallet กระเป๋า 1 ไม่สามารถใช้วงเงิน 1,000 บาทได้

3) หากไม่เริ่มใช้สิทธิ์ทั้ง 2 กระเป๋า จะถูกตัดสิทธิ์ทั้งหมด และไม่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการนี้ได้อีก

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถทยอยลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 15 พ.ย. 2562 และสามารถเดินทางท่องเที่ยวพร้อมจับจ่ายใช้สอยได้ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. 2562 ถึงวันที่ 30 พ.ย. 2562

ก่อนหน้านี้ นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า ธนาคารได้มีการเฝ้าระวังการลงทะเบียนตลอดเวลา ทันทีที่ทราบว่าประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการเข้าลงทะเบียนและเกิดความล่าช้านั้น ธนาคารเร่งขยาย Bandwidth ของช่องทางลงทะเบียนเพิ่มอีก 100% และปรับปรุงประสิทธิภาพของ Website เพื่อให้เกิดความรวดเร็วโดยทันที รวมทั้งมีความปลอดภัยและสามารถตรวจสอบได้ และยังคงมีความมั่นใจในเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy)

ด้ายนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าว่า คลังได้ขยายวันในการรับสมัครร้านค้าเพื่อเข้าร่วมโครงการ จากปัจจุบันมีร้านค้าเข้าร่วมมาตรการแล้วทั้งสิ้น 1.5 แสนราย โดยจะขยายเวลาให้ร้านค้ามาร่วมลงทะเบียนถึงวันที่ 15 ต.ค. นี้ และได้ทำการตัดสิทธิ์ร้านที่จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ ลอตเตอรี่ ไม่ให้โครงการชิมช้อปใช้ เพราะไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการที่ต้องการให้จับจ่ายใช้สอยเป็นประโยชน์

ทั้งนี้ปัจจุบันมีร้านที่มีชื่อลอตเตอรี่อยู่ในโครงการชิมช้อปใช้ 76 ร้านค้าทั่วประเทศ และใช้ชื่อว่าล็อตเตอรี่ 106 ร้านค้าทั่วประเทศ

ด้าน น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า การขยายเวลาลงทะเบียนผู้ประกอบการร้านค้าในครั้งนี้ กรมบัญชีกลางยังคงตรวจสอบข้อมูลและคัดกรองร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลกำหนด โดยร้านค้าล็อตเตอรี่ และวินมอเตอร์ไซค์ ไม่สามารถเข้าร่วมมาตรการได้ ซึ่งกรมบัญชีกลางได้ตรวจสอบแล้วพบว่ามีร้านค้าล็อตเตอรี่ลงทะเบียนจำนวนกว่า 70 ร้าน และได้ยกเลิกร้านค้าล็อตเตอรี่ทั้งหมดออกจากระบบการลงทะเบียนแล้ว และประชาชนที่ได้สิทธิตามมาตรการจะไม่สามารถใช้วงเงิน 1,000 บาทกับร้านค้าล็อตเตอรี่ได้

สำหรับร้านค้าอื่นๆ ที่ได้ลงทะเบียนและปักหมุดในระบบเรียบร้อยแล้ว ขอความร่วมมือจำหน่ายสินค้าที่ไม่เป็นการส่งเสริมอบายมุขและควรเป็นสินค้าที่มีความเหมาะสม เพื่อให้สอดรับกับเจตนารมณ์ของมาตรการ